คุณอยู่ที่

คนตาบอดที่ช่วยเหลือตัวเองได้หรือมีทักษะการใช้ชีวิต จะไม่ค่อยได้อยู่บ้านตัวเอง

ปรับขนาดตัวอักษร

-A A +A
รูปภาพของ suriyan
เขียนโดย suriyan เมื่อ เสาร์, 10/19/2019 - 06:56

คนตาบอดที่ช่วยเหลือตัวเองได้หรือมีทักษะการใช้ชีวิต จะไม่ค่อยได้อยู่บ้านตัวเอง

หากเราพูดถึง “คนตาบอด” ส่วนใหญ่แล้ว หากเราสังเกตดีๆ จะพบว่า ตามเมืองใหญ่ต่างๆ มักจะมีคนตาบอดอยู่กันมาก ตัวอย่างเช่นกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่อื่นๆ ที่การคมนาคมสะดวกสบาย มีรถสาธารณะให้บริการ

ถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น นั่นก็เพราะ คนตาบอดก็ไม่ต่างจากคนทั่วไป ต้องทำมาหากินไม่ต่างกัน ดังนั้นเมื่อมีความเจริญที่ไหน ก็จะมีทางทำมาหากินที่นั่น คนคอยช่วยก็มาก บริการด้านต่างๆ ก็ต้องพร้อมกว่าจังหวัดหรืออำเภอเล็กๆ ที่ขาดการคมนาคมที่ดีและมีคนน้อย

อีกประการที่คนตาบอดเลือกที่จะอยู่ในตัวจังหวัดที่ค่อนข้างเจริญนั่นก็คือ การที่จังหวัดเหล่านั้นมักจะมีรถโดยสารหรือรถสาธารณะให้บริการ เช่น รถเมย์ รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แท็กซี่ และอื่นๆ เพราะคนตาบอดก็อยากไปนั่นไปนี่ไม่ต่างจากคนปกติ หากอยู่ในจังหวัดหรืออำเภอที่ไม่มีรถเหล่านี้ให้บริการ คนตาบอดจะลำบากมาก เพราะเวลาจะไปไหนไกลๆ ก็ต้องขอให้คนอื่นไปส่ง ถ้าเขาว่างก็ดีไป ถ้าไม่ว่างก็ต้องรอ ซึ่งธุระบางอย่างมันก็รอไม่ได้ เพราะสาเหตุนี้ ทำให้คนตาบอดเสียงานมานักต่อนักแล้ว ดังนั้นการใช้รถสาธารณะเหล่านี้ดีที่สุด ถึงจะต้องใช้เงิน แต่ก็ไม่ต้องรอใคร อยากไปก็ไป อยากกลับก็กลับ ให้ความอิสระกับคนตาบอดมากกว่า

หลายท่านอ่านมาถึงตรงนี้อาจจะบอกว่า “...อ้าว ก็ไปอยู่กับญาติพี่น้องสิ อยากไปไหนก็ได้ไป พี่น้องกัน ยังไงก็ช่วย” ซึ่งขอบอกว่าคิดแบบนี้ก็ไม่เชิงถูกเสียทีเดียวครับ

คนตาบอดอาจจะมีครอบครัว พี่น้อง หรือเพื่อนฝูงก็จริง แต่กลุ่มคนดังกล่าวก็ไม่ใช่ว่าจะพร้อมช่วยเหลือคนตาบอดตลอดเวลานะครับ แต่ละคนต่างก็มีภาระงานเป็นของตน หรือบางคนเองก็ไม่ได้ใส่ใจความต้องการของคนตาบอดดีขนาดนั้น เพราะบางคนก็คิดแค่ว่า หาข้าวหาน้ำให้คนตาบอดได้กินเฉยๆ ก็พอแล้ว ส่วนธุระอื่นๆ รอว่างจริงๆ หรือขยันจริงๆ ค่อยพาไปก็ได้ ซึ่งก็อย่างที่ผมบอก ว่าธุระของคนตาบอดบางอย่างมันก็รอไม่ได้ หรือบางอย่างมันก็จำเป็นต้องไปจริงๆ ดังนั้นถ้ามาฝากชีวิตเอาไว้กับคนอื่นที่คาดเดายากแบบนี้ คนตาบอดคงอึดอัดแย่เลยครับ ดังนั้นตัดปัญหาเหล่านี้ไป ใช้รถรับจ้างดีกว่า ส่วนคนใกล้ชิดค่อยขอความช่วยเหลือเป็นครั้งคราวไป

หลายคนยังอาจจะเกิดคำถามที่ว่า เพียงเรื่องแค่นี้ ถึงกลับต้องทำให้คนตาบอดไม่อยากอยู่บ้านกับครอบครัวเลยหรือ หากบ้านของคนตาบอดคนนั้นอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีบริการด้านต่างๆ พร้อมก็คงไม่อะไรมาก แต่สำหรับคนตาบอดที่มีบ้านอยู่ตามจังหวัดหรือตามแถบชนบทคำตอบคือใช่ครับ

ถ้าคนตาบอดที่ไม่เคยออกไปพบสังคมหรือออกไปไหนเลย อาจจะไม่รู้สึกอะไรมากเพราะความเคยชิน แต่ถ้าคนตาบอดที่มีทักษะการเดินทาง หรือเคยอยู่คนเดียวมาระยะหนึ่งแล้วจะเข้าใจความรู้สึกนี้ได้ชัดเจน กล่าวคือ รู้สึกไม่มีความอิสระ อยากไปไหนก็ไม่ได้ไป อย่างบางทีแค่อยากจะออกไปกินข้าวนอกบ้านเหมือนคนอื่น แต่พอพูดคุยกับครอบครัวหรือญาติๆ ทางนั้นกลับไม่เห็นด้วยหรือไม่พาไป หรือบางครั้งจำเป็นต้องไปส่งเอกสารด่วน ทางคนใกล้ตัวกลับบอกว่า เดี๋ยวทำนั่นโน่นนี่เสร็จจะพาไป หรือกระทั่งไม่ให้ความสำคัญเลยก็มี ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับคนที่มีทักษะการช่วยตัวเองมาแล้ว จะรู้สึกขัดใจมาก อยากทำอะไรก็ไม่ได้ทำ อยากไปไหนก็ไม่ได้ไป ไม่เหมือนอยู่เมืองใหญ่ๆ แค่เกิดอารมณ์อยากไปเดินห้างฯ ก็แค่โทร. เรียกรถสาธารณะขาประจำก็ได้ไปแล้ว

สำหรับบางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับคนตาบอดที่ต้องการใช้บริการเหล่านี้ แล้วไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน คงจะยิ้มไม่ออกเป็นแน่ เพราะหากไม่มีบริการเหล่านี้ แล้วยังไม่มีคนช่วย มันก็เหมือนติดคุกที่ไม่มีลูกกรงดีๆ นี่เอง


ผู้อ่านสามารถสนับสนุนเว็บไซต์ โดยการอุดหนุนนิยายบนเว็บไซต์ เขียนกันดอทคอม เว็บไซต์อ่านนิยายที่คนตาบอดเป็นเจ้าของ และอยากให้สังคมการอ่านเป็นของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าตาดีหรือตาบอด

ให้ดาวบทความนี้: 
Average: 1 (1 vote)

อันนี้ค่อนข้างจริงครับ

แสดงความคิดเห็น