คุณอยู่ที่

สงสัยเรื่องปัญหาที่ผู้พิการทางสายตาเจอตอนจะขึ้นรถเมล์ในกทม.ครับ

ปรับขนาดตัวอักษร

-A A +A
สงสัยเรื่องปัญหาที่ผู้พิการทางสายตาเจอตอนจะขึ้นรถเมล์ในกทม.ครับ

สวัสดีครับ ผมชื่อไวโอลินนะครับ เป็นนิสิตวิศวะ ปี1 จุฬาฯครับ พอดีมีวิชาที่ต้องทำโปรเจคต์แล้วต้องสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งกลุ่มผมเลือกทำเกี่ยวกับปัญหาการใช้งานรถเมล์ของคนตาบอดครับ ตอนนี้เจาะมาที่ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนกำลังรอ และตอนจะขึ้นรถเมล์ครับ
ขอรบกวนเวลามาตอบคำถามซักหน่อยนะครับ เพื่อจะได้นำไปคิดหาแนวทางการแก้ปัญหา พอตอบเสร็จแล้วจะมาคุยเล่นกันก็ได้ครับ ขอขอบคุณล่วงหน้าที่ให้ความร่วมมือครับ ขอบคุณจริงๆ!!! :D
1. ขึ้นรถเมล์บ่อยไหมครับ
2. ทราบได้อย่างไรว่ารถเมล์สายที่จะขึ้นมาถึงป้ายแล้ว
3. ตอนขึ้นรถเมล์ ขึ้นยังไงครับ (อย่างเช่น ต้องมีคนช่วยพาขึ้น หรือขึ้นเองได้เลย) ลำบากมากหรือเปล่า
4. ทราบได้อย่างไรว่ารถเมล์คันที่อยากขึ้นจอดอยู่บริเวณใดของพื้นที่หน้าป้ายรถเมล์
5. คนรอบข้างให้ความช่วยเหลือในการขึ้นรถเมล์บ้างไหม มีเรื่องเล่าที่น่าจดจำ หรือมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาแบ่งปันกันไหมครับ
6. ปกติใช้อุปกรณ์หรือแอปที่ช่วยในการเดินทางบ้างไหม ถ้าใช้ ใช้อะไรบ้าง และใช้อย่างไรหรอครับ
7. สมมติว่าต้องการใช้บริการสาธารณะ แต่ไม่มีคนให้ความช่วยเหลืออยู่แถวนั้นเลย จะดำเนินการต่อด้วยตนเองอย่างไรครับ

อันนี้แค่คุยเล่นครับ จะข้ามไปก็ได้
สัปดาห์ก่อนเพื่อนกลุ่มผมไปสัมภาษณ์คนตาบอดสองคนที่แถวๆอนุสาวรีย์ชัยฯ พวกเขาเล่าว่าพอคุยกับคนตาบอดไปนานๆนี่ เหมือนกับว่าเขาไม่ได้เป็นคนตาบอดเลย มีความสุขในชีวิต ยิงมุกตบมุกกันเป็นว่าเล่นได้เหมือนคนปกติ
พอรู้อย่างนี้มุมมองที่มีต่อคนตาบอดก็เริ่มเปลี่ยนไปครับ สบายใจขึ้นที่รู้ว่าพวกเขาไม่ได้ลำบากขนาดนั้น อยากรู้จักและเข้าใจพวกเขามากขึ้น และถ้าโปรเจคต์ที่ทำอยู่นี่ดีพอจะเกิดขึ้นจริงได้ก็รู้สึกยินดีอย่างยิ่งจากใจจริงครับ

สุดท้ายแล้ว ขอขอบคุณล่วงหน้าอีกครั้งครับ


ผู้อ่านสามารถสนับสนุนเว็บไซต์ โดยการอุดหนุนนิยายบนเว็บไซต์ เขียนกันดอทคอม เว็บไซต์อ่านนิยายที่คนตาบอดเป็นเจ้าของ และอยากให้สังคมการอ่านเป็นของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าตาดีหรือตาบอด

อันนี้ก็แล้วแต่เทคนิคส่วนบุคคลเลยครับ

โดยส่วนตัวผมไม่เคยขึ้นรถเมล์ที่กรุงเทพ นอกจากอยู่ต่างจังหวัดเป็นหลัก ตอนเข้าไปที่กรุงเทพก็จะโดยสารด้วยแท็คซี่มากกว่า เพราะไม่ชินทาง กลัวขึ้นผิดสาย

เท่าที่ฟังเพื่อนๆ ตาบอดด้วยกัน บางคนก็อาศัยคนช่วย บางคนก็ฟังเสียงกระเป๋ารถตะโกนเรียกลูกค้า ส่วนบางคนก็อาศัยดูการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันที่เกี่ยวกับรถเมย์ อย่างเช่น
https://www.blindliving.club/blog/297
เอาครับ

ในส่วนการเดินขึ้นรถเมย์ อันนี้ไม่ใช่ปัญหาครับ ขอแค่ก้าวระวังๆ หน่อย ก็ไม่ต่างจากขึ้นลงบันได

กรณีที่ไม่มีคนช่วยเลย ถ้าอยากรู้ว่ารถจอดอยู่ตรงไหน อันนี้อาศัยการฟังลูกเดียวเลยครับ คือฟังทั้งเสียงเครื่องยนตร์ของรถ ฟังเสียงกระเป๋ารถที่ตะโกนเรียกลูกค้า ฟังทั้งเสียงเดินของคนรอบข้างว่าเขาไปทางไหน แล้วจ้ำตามอย่างเดียว ชนใครก็ขอโทษไป

ถ้ากลัวไม่ทันจริงๆ ก็ทิ้งความอายตะโกนไปเลยว่ารอด้วยคร้าบ ผมตาบอด 555

ทุกการเดินทางของคนตาบอดไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับ คนช่วยก็มีเรื่อยๆ ไม่มาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย

ปัญหาที่ผู้พิการทางสายตาเจอตอนจะขึ้นรถเมล์ใน กทม.

จากข้อมูลที่รวบรวมได้ พบว่าผู้พิการทางสายตาเผชิญกับปัญหาหลายประการเมื่อต้องใช้บริการรถเมล์ใน กทม. ดังนี้

1. การรอรถเมล์

ไม่ทราบว่ารถเมล์สายที่จะขึ้นมาถึงป้ายแล้ว
ป้ายรถเมล์บางแห่งไม่มีระบบแจ้งเตือนเสียง
บางป้ายมี แต่เสียงไม่ชัดเจน หรือทำงานไม่ปกติ
เสี่ยงต่ออันตรายจากสภาพแวดล้อม
ป้ายรถเมล์บางแห่งอยู่ริมถนน เสี่ยงต่อการถูกรถเฉี่ยวชน
พื้นที่รอบป้ายรถเมล์ไม่เรียบ มีสิ่งกีดขวาง
ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ค้า
บางครั้งถูกเรียกเก็บค่าโดยสารเกินราคา
ถูกหลอกขายของ

2. การขึ้นรถเมล์

รถเมล์จอดไม่สนิทชิดฟุตบาท
ทำให้ขึ้นลงยาก ลื่นล้มได้ง่าย
มีบันได
รถเมล์บางคันไม่มีระบบยก
ผู้พิการทางสายตาที่ใช้รถเข็นไม่สามารถขึ้นเองได้
ประตูรถเมล์แคบ
ลำบากในการขึ้นลง
ไม่มีพื้นที่สำหรับผู้พิการ
ต้องยืนเกาะเสา หรือเบียดกับผู้โดยสารคนอื่น

3. การรู้ข้อมูลบนรถเมล์

ไม่ทราบชื่อป้ายรถเมล์
บางคันไม่มีระบบบอกชื่อป้าย
เสียงประกาศไม่ชัดเจน
ไม่ทราบว่าใกล้ถึงจุดหมายปลายทางหรือยัง
ต้องอาศัยการถามผู้โดยสารคนอื่น

4. การได้รับความช่วยเหลือ

ผู้โดยสารบางคนไม่เต็มใจช่วยเหลือ
บางคนแสดงท่าทีรำคาญ
บางคนไม่รู้วิธีช่วย
พนักงานขับรถบางคนไม่ให้ความช่วยเหลือ
ไม่จอดรถให้ตรงจุด
ไม่เปิดประตูรอ
ไม่มีระบบอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ
เช่น ปุ่มกดขอความช่วยเหลือ

5. อุปกรณ์และแอปพลิเคชัน

อุปกรณ์ช่วยคนตาบอด
เช่น ไม้เท้าสุนัขนำทาง มีราคาสูง หาซื้อยาก
แอปพลิเคชัน
บางแอปยังไม่รองรับภาษาไทย
ข้อมูลไม่ครบถ้วน ไม่แม่นยำ

6. กรณีไม่มีคนช่วยเหลือ

ต้องรอคนมาช่วย
อาจใช้เวลานาน เสียเวลา
ต้องขึ้นรถสายอื่น
อาจอ้อมไปไกล ใช้เวลานาน
ต้องเรียกรถแท็กซี่
เสียค่าใช้จ่ายสูง

แนวทางการแก้ไข

พัฒนาป้ายรถเมล์
ติดตั้งระบบแจ้งเตือนเสียงที่ชัดเจน
ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย
พัฒนาตัวรถ
ให้รถเมล์จอดสนิทชิดฟุตบาท
ติดตั้งระบบยกสำหรับผู้พิการ
ขยายประตูรถเมล์
จัดพื้นที่สำหรับผู้พิการ
พัฒนาระบบการให้ข้อมูล
ติดตั้งระบบบอกชื่อป้าย
ประกาศข้อมูลชัดเจน
อบรมพนักงาน
ให้ความรู้เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้พิการ
สนับสนุนการใช้อุปกรณ์และแอปพลิเคชัน
สนับสนุนเงินทุน
พัฒนาแอปให้รองรับภาษาไทย และมีข้อมูลครบถ้วน

ตัวอย่างประสบการณ์

"เคยถูกคนขับรถเมล์ตะโกนไล่ เพราะขึ้นรถช้า"
"เคยถูกผู้โดยสารเบียดจนล้ม"
"เคยหลงทาง เพราะระบบบอกชื่อป้ายไม่ทำงาน"

ขอตอบตรงนี้แล้วกัน ไม่สะดวกเข้าไปตอบในเว็บครับ
1. ขึ้นรถเมล์บ่อยไหมครับ
- ไม่ได้ขึ้นรถเมล์เองมาน่าจะ 10 ปีแล้ว แต่ก่อนหน้านั้น ชีวิตติดรถเมล์มากครับ 555 เพราะต้องขึ้นไปกลับจากโรงเรียนหรือมหาลัยทุกวัน
.
2. ทราบได้อย่างไรว่ารถเมล์สายที่จะขึ้นมาถึงป้ายแล้ว
- โดยหลักก็ต้องถามคนตาดี แต่เราก็ต้องฝึกฟังเสียงเครื่องยนต์เอาครับ อย่างน้อยก็จำแนกได้ว่าคันนี้เป็นรถร่วม ขสมก ยูโร2 รถร้อน สองแถว หรือเมล์เล็ก สมัยก่อนมันมีรถไม่กี่ยี่ห้อหรอก แต่ตอนนี้ทำอย่างนั้นยากแล้ว เพราะรถหลากหลายขึ้นครับ
เมื่อก่อนผมอยู่เรียนสามเสนวิทยาลัย มีรถเมล์ไม่กี่สายหรอก แล้วโชคดีว่าแต่ละสายใช้รถคนละยี่ห้อกันเลย เลยสามารถขึ้นได้โดยไม่ต้องถามคนตาดีครับ แต่ต้องออกมายืนริมถนนเพื่อให้รถเมล์เห็น จอดให้เรา เราจะไปโบกเรียกก็ไม่ได้
.
3. ตอนขึ้นรถเมล์ ขึ้นยังไงครับ (อย่างเช่น ต้องมีคนช่วยพาขึ้น หรือขึ้นเองได้เลย) ลำบากมากหรือเปล่า
- ถ้าถามคนตาดีตั้งแต่แรก เขาก็จะช่วยพาเราขึ้นรถเมล์ แต่ถ้าไม่มีใครช่วย ก็ต้องฝึกสังเกตว่ารถยี่ห้อนี้ประตูอยู่ตรงไหนของตัวรถ เครื่องอยู่ด้านหน้าหรือด้านท้ายรถ เพื่อจะได้เดินไปหาประตูได้ถูก บางทีก็ต้องฟังเสียงตอนเปิดประตู มันจะมีเสียงลมและเสียงกระแทก ช่วยได้มาก หรือฟังเสียงว่าคนอื่นเขาเดินไปขึ้นรถตรงไหน มันจะมีเสียงก้าวขึ้นบันไดอยู่ครับ
.
4. ทราบได้อย่างไรว่ารถเมล์คันที่อยากขึ้นจอดอยู่บริเวณใดของพื้นที่หน้าป้ายรถเมล์
- ฟังเสียงเครื่องยนต์ครับ
.
5. คนรอบข้างให้ความช่วยเหลือในการขึ้นรถเมล์บ้างไหม มีเรื่องเล่าที่น่าจดจำ หรือมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาแบ่งปันกันไหมครับ
- ส่วนใหญ่มีคนช่วยครับ แค่เห็นเรายืนคนเดียว เขาก็เข้ามาแล้ว ถ้าไม่มีใครเข้ามา เราก็ต้องเดินไปหาเขา ไม่เคยถูกปฏิเสธ
เรื่องแบ่งปันเยอะมากครับ เขียนได้เป็นหน้า ตั้งแต่ ส.ส.พาขึ้นรถ ถูกปิดประตูหนีบกระเป๋าสะพาย ถูกรถเมล์ลากไปบนถนน ถูกกระเป๋าหาว่าแกล้งเป็นคนตาบอด จอดให้ลงเลนกลาง จอดให้ลงนอกป้าย นั่งรถเลย รถเมล์จอดรอตั้งแต่เรายังเดินอยู่บนสะพานลอย กระเป๋าแบ่งยาคู้ให้กินทุกวัน เคยเดินถือกระบอกเก็บตังไปรอบๆรถด้วยเพราะตอนเด็กฝันอยากเป็นกระเป๋ารถเมล์พี่กระเป๋าก็เลยจัดให้ 555 เคยแอบกินไก่ย่างบนรถเมล์ ยืนบนรถเมล์ 4 ชั่วโมงเพราะรถติดมาก เคยนัดกับคนขับรถเมล์ว่าเราจะมาขึ้นคันเดียวกันทุกวัน รถเสียบนทางด่วน เอาเป็นว่า ในยุคนั้น พนักงานสาย 29 510 538 44 รู้จักผมกันแทบทุกคน
.
6. ปกติใช้อุปกรณ์หรือแอปที่ช่วยในการเดินทางบ้างไหม ถ้าใช้ ใช้อะไรบ้าง และใช้อย่างไรหรอครับ
- ยุคนี้มีแอปดูรถเมล์ แต่ยังไม่เคยทดลองใช้ ขอไม่ตอบแล้วกัน
.
7. สมมติว่าต้องการใช้บริการสาธารณะ แต่ไม่มีคนให้ความช่วยเหลืออยู่แถวนั้นเลย จะดำเนินการต่อด้วยตนเองอย่างไรครับ
- รถเมล์คันไหนจอด เราก็เดินเข้าไปถามคนขับหรือกระเป๋าว่านี่สายอะไร เอากันตรงๆแบบนี้แหละ

แสดงความคิดเห็น