
ปัจจุบัน การจ้างงานคนพิการมีพัฒนาการที่ดีขึ้น และมีแนวโน้มที่จะพัฒนาต่อไปในทางที่ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี ประเด็นที่ควรตั้งคำถามคือ การจ้างงานดังกล่าวมี “เนื้อนัย” ที่ดีขึ้นจริงหรือไม่ ซึ่งสามารถแบ่งเป็นประเด็นสำคัญ 3 ประการ ดังนี้
- จ้างไปเพื่ออะไร
- จ้างแล้วให้ทำอะไร
- จ้างแล้วเข้าใจคนพิการจริง ๆ หรือไม่
จ้างไปเพื่ออะไร
กฎหมายกำหนดให้ต้องจ้าง
พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 กำหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการต้องรับคนพิการเข้าทำงาน เพื่อให้คนพิการมีโอกาสในการประกอบอาชีพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
มาตรา 33 มีหลักว่า
เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ และหน่วยงานของรัฐ รับคนพิการเข้าทำงานตามลักษณะของงานในอัตราส่วนที่เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบการหรือหน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานออกกฎกระทรวงกำหนดจำนวนที่ต้องรับคนพิการเข้าทำงาน
ในกรณีที่นายจ้างไม่สามารถจ้างงานโดยตรงได้ ให้ดำเนินการตามมาตรา 35 ซึ่งมีหลักว่า
หากนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการตามมาตรา 33 ไม่สามารถรับคนพิการเข้าทำงานได้ครบตามอัตราส่วนที่กำหนด ให้ดำเนินการโดยการให้สัมปทานหรือจัดให้มีการให้ความช่วยเหลืออื่นใดแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด
สิทธิประโยชน์ทางภาษี
นอกจากการบังคับตามกฎหมายแล้ว การจ้างงานคนพิการยังให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่นายจ้าง ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 499) พ.ศ. 2553 มาตรา 3 ซึ่งวางหลักว่า
ให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการที่รับคนพิการซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการเข้าทำงาน ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายที่จ่ายในการจ้างคนพิการ
ต่อมา พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 519) พ.ศ. 2554 ขยายสิทธิยกเว้นภาษีเพิ่มเติม โดยมีหลักว่า
- มาตรา 3 (2) สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับค่าใช้จ่ายที่จ่ายเป็นการจัดให้คนพิการได้รับสิทธิประโยชน์
- มาตรา 4 หากสถานประกอบการจ้างคนพิการเกินกว่าร้อยละ 60 ของลูกจ้างทั้งหมด และมีระยะเวลาการจ้างเกิน 180 วันในปีภาษี จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้เพิ่มเติม อีก 100% ของรายจ่ายจากสิทธิเดิม
ตัวอย่างการคำนวณ
- พระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 499/2553 หากนายจ้างจ่ายค่าจ้างจริงให้แก่คนพิการ วันละ 400 บาท ตลอดปี (365 วัน)
- ค่าใช้จ่ายจริง = 400 × 365 = 146,000 บาท
- สิทธิยกเว้นภาษี (2 เท่า) = 146,000 × 2 = 292,000 บาท
- พระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 519/2554 หากสถานประกอบการมีลูกจ้างคนพิการเกิน 60% และมีการจ้างเกิน 180 วัน/ปี
- ค่าใช้จ่ายจริง = 400 × 365 = 146,000 บาท
- สิทธิยกเว้นภาษี (3 เท่า) = 146,000 × 3 = 438,000 บาท
จ้างแล้วให้ทำอะไร
ปัจจุบันการจ้างงานคนพิการมีช่องทางและโอกาสเพิ่มมากขึ้น ทั้งการประชาสัมพันธ์ตำแหน่งงานผ่านเว็บไซต์ สื่อออนไลน์ หรือองค์กรผู้พิการต่าง ๆ ซึ่งทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้นายจ้างสามารถเข้าถึงผู้สมัครคนพิการได้สะดวกยิ่งขึ้น
ในด้านการปฏิบัติงาน คนพิการสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากมีเทคโนโลยีช่วยเหลือรองรับ เช่น
- ครูอาจารย์ใช้คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ช่วยสอน
- นักเขียนหรือนักบรรณาธิการใช้ซอฟต์แวร์อ่านออกเสียง (Screen Reader)
- นักกฎหมายใช้เทคโนโลยีในการค้นคว้าข้อมูล
- พนักงานบริษัทสามารถใช้โปรแกรมและซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ในการทำงานตามคำสั่งของนายจ้าง ทั้งในด้านเอกสาร การสื่อสาร การประมวลผลข้อมูล และการบริหารงานทั่วไป
จ้างแล้วเข้าใจคนพิการจริง ๆ หรือไม่
ปัญหาสำคัญของการจ้างงานคนพิการคือ ความจำกัดของตำแหน่งงาน ว่ามีความหลากหลายเพียงพอหรือไม่ การจ้างงานจะประสบความสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับความรู้และความเข้าใจของนายจ้าง หากนายจ้างขาดความรู้เกี่ยวกับศักยภาพและความสามารถของคนพิการ ย่อมส่งผลให้ไม่สามารถกำหนดตำแหน่งงานหรือหน้าที่ที่เหมาะสมได้
การเข้าใจคนพิการอย่างแท้จริงถือเป็นหัวใจสำคัญของการจ้างงานที่มีประสิทธิภาพ การจ้างงานไม่ควรเป็นเพียงการจ้างเพื่อให้ครบตามอัตราส่วนทางกฎหมาย แต่ต้องมีงานที่สอดคล้องกับความสามารถของผู้พิการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อองค์กรและผู้พิการเอง หากนายจ้างจ้างโดยปราศจากความเข้าใจในศักยภาพและข้อจำกัดของคนพิการ การจ้างงานนั้นจะเป็นเพียงการจ้างตามกฎหมายเท่านั้น โดยขาดประสิทธิภาพและไม่สามารถดึงศักยภาพของผู้พิการออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่
ดังนั้น การจ้างงานคนพิการตามหลักกฎหมายและแนวทางการส่งเสริมการจ้างงาน ต้องควบคู่ไปกับความเข้าใจ ความรู้ การจัดสรรงานที่เหมาะสม และการใช้เทคโนโลยีหรือโปรแกรมต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับงานที่มอบหมาย เพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อองค์กรและผู้พิการอย่างแท้จริง
อ้างอิง:
- คู่มือการปฏิบัติตามกฎหมายการจ้างงานคนพิการสำหรับนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- vecteezy
ผู้อ่านสามารถสนับสนุนเว็บไซต์ โดยการอุดหนุนนิยายบนเว็บไซต์ เขียนกันดอทคอม เว็บไซต์อ่านนิยายที่คนตาบอดเป็นเจ้าของ และอยากให้สังคมการอ่านเป็นของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าตาดีหรือตาบอด
แสดงความคิดเห็น