คุณอยู่ที่

ใช้ชีวิตไม่ยากอย่างที่คิด : เปิดใจอ่านการใช้ชีวิตของคนตาบอดที่ไม่แพ้คนตาดี

1.0x

ปรับขนาดตัวอักษร

-A A +A

เพื่อนตาบอดหลายคนเคยคุยกันถึงประเด็นที่คนตาดีชอบถามอะไรคนตาบอดแปลกๆ เป็นต้นว่า อาบน้ำเองไหม กินข้าวได้ไหม ซึ่งคนตาบอดมองว่าคำถามเหล่านี้ประหลาดเหลือเชื่อในความคิดพวกเขา วันนี้เลยอยากมาเล่าวิธีเทียบกันง่ายๆ ให้คนตาดีได้ทราบกันสักเล็กน้อย เอาจริงส่วนตัวเข้าใจทางฝั่งตรงข้ามเหมือนกันที่ถามแบบนั้น หลายคนมักจะคิดว่าแค่เสียดวงตาก็อาจไม่สามารถทำอะไรในชีวิตได้ตามปกติเลย แต่ถ้าพิจารณาดีๆ จะพบว่าเปล่าเป็นอย่างนั้นแม้แต่น้อยค่ะ

ในฐานะคนเคยมองเห็นมาก่อน จะแนะนำวิธีเทียบกันง่ายๆ คือ ให้ทุกคนแค่ลองหลับตา แล้วลงมือทำสิ่งต่างๆ โดยไม่ยึดติดว่าทำไม่ได้ลองดู ตอนที่มองไม่เห็นอะไรใหม่ๆ แรกทีเดียวก็คิดอยู่ว่าจะกินข้าวคนเดียวได้ไหม แต่พอคิดดีๆ อาจจะต้องคลำหาช้อนส้อมนิดหน่อย จับตัวจานให้พอรู้ขนาด ยิ่งถ้าเป็นอาหารจานเดียวก็สบายเลย หยิบช้อนหยิบซ่อมได้ก็กินตามปกติ แต่ยอมรับว่าเป็นการกินที่เลือกลำบากนิดหน่อยตรงจะคัดเอาเฉพาะที่ชอบไม่ได้ขนาดนั้น และก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลือกไม่ได้เลย บางครั้งสามารถใช้ช้อนส้อมเขี่ยๆ ดูลักษณะของเนื้อหรือผักได้เหมือนกัน

ความมืดมิดของดวงตา จริงๆ แล้วไม่ได้ทำให้พวกเราแตกต่างจากคนทั่วไปที่มองเห็นเท่าไหร่นัก ออกแนวคนตาดีโดนปิดตาใช้ชีวิตนั่นล่ะ ที่เหลือไม่ว่าจะเป็นความดีชั่ว ความรักความเกลียด อยากสวยอยากหล่อ และอีกสารพัดไม่ต่างกันเลย แม้ในการเดินทาง หลายคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “นี่บ้านฉันจำได้หมด ให้หลับตาเดินก็ยังได้” นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่บอกว่าไม่แปลกหรอกถ้าคนตาบอดจะเดินเหินในพื้นที่ที่คุ้นเคยได้ราวมองเห็น หรือกิจกรรมหลายส่วน พวกเขาย่อมได้รับการฝึกฝนจนทำได้ รีดผ้า ซักผ้า ล้างถ้วยชาม ล้างห้องน้ำ กระทั่งเทคโนโลยีก็ด้วย โรงเรียนการศึกษาพิเศษจะสอนทุกอย่างที่ใช้ในการดำรงชีวิต คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ สมัยนี้มีเสียงช่วยอ่านหน้าจอหมดแล้ว แค่ต้องศึกษาการใช้งานให้แม่นยำ ปุ่มไหนใช้สั่งการอะไร หรือบางทีแค่เลื่อนนิ้วบนแป้นสัมผัสโดนตรงไหนระบบก็จะอ่านให้ฟังเลย

ไม่ผิดที่ใครจะถามพวกเราถึงสิ่งที่ไม่รู้ แต่ ณ ที่นี้เพียงอยากแนะนำวิธีเทียบกันง่ายๆ ให้ทราบเท่านั้น คนตาบอดก็คือคนทั่วไปที่มองไม่เห็นนี่ล่ะ ไม่แตกต่างกันนัก ส่วนเรื่องที่เห็นจะไม่ได้สำหรับพวกเราจริงๆ ก็คือพวกภาพ สี รายละเอียดที่ต้องอาศัยการมองเห็นเท่านั้น ไม่สามารถใช้สัมผัสอื่นทดแทนได้ อย่างเช่นกระเป๋าถือ คนตาบอดอาจใช้สัมผัสมือคลำดูลักษณะจนรู้ได้ว่าเป็นกระเป๋าถือ แต่ก็จะไม่รู้ว่าเป็นสีอะไร ลายอะไร ดีขึ้นหน่อยที่ช่วงหลังๆ เริ่มมีฟังชั่นต่างๆ บนเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเป็นดวงตาให้ ถึงกระนั้นบางครั้งก็ยังไม่แม่นยำ 100% เสียทีเดียว แต่ก็ช่วยได้เยอะราว 90% ตามข้อมูลที่ผู้พัฒนาป้อนเข้าไป โดยที่เจอปัญหาบ่อยๆ คงจะหนีไม่พ้นเรื่องการอ่านข้อความบนภาพ เพราะบางข้อความมีลูกเล่นซับซ้อนจนบางทีเอไอแยกไม่ออกทำให้อ่านเพี้ยนไปพอควร

หวังว่าคำอธิบายทั้งหมดนี้จะช่วยให้ใครเข้าใจในคนตาบอดมากขึ้นไม่มากก็น้อย และถ้าใครอยากให้เล่าเรื่องอะไรให้ฟังอีกก็สามารถคอมเมนท์ทิ้งไว้ได้เลย มีโอกาสสะดวกๆ อีกก็จะมาแบ่งปันให้อ่านกันอีก


ผู้อ่านสามารถสนับสนุนเว็บไซต์ โดยการอุดหนุนนิยายบนเว็บไซต์ เขียนกันดอทคอม เว็บไซต์อ่านนิยายที่คนตาบอดเป็นเจ้าของ และอยากให้สังคมการอ่านเป็นของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าตาดีหรือตาบอด

แสดงความคิดเห็น