ถึงแม้ในสังคมเมืองไทย มักมีค่านิยมกันว่า คนพิการต่างๆ เต็มไปด้วยความน่าสงสาน ไม่มีพิษมีภัย หรือคนพิการมีแต่ความบริสุทธิ์ใจไม่หลอกลวง หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว ความเชื่อเหล่านั้นห่างไกลจากความเป็นจริงพอสมควร อย่างที่หลายคนก็คาดไปไม่ถึงเลยทีเดียว
วันนี้ Blind living จะมาขอตีแผ่เรื่องราวในมุมมืดให้หลายท่านได้อ่านกัน ซึ่งก่อนอื่น ทางทีมงานขอออกตัวก่อนว่า พฤติกรรมที่ยกมาเหล่านี้ บางคนก็ทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจจริง มิได้หลอกลวงอะไรทั้งสิ้น ในทางกลับกัน อีกบางส่วนก็ทำเพื่อหาผลประโยชน์เข้าสู่ตนเองและพรรคพวก โดยการกระทำเหล่านี้ มีตั้งแต่คนตาบอดทำกันเอง หรือแม้กระทั่งร่วมมือกับคนตาดีบางกลุ่มซึ่งมีผลประโยชน์ร่วมกัน
ถือกล่องรับบริจาก
พฤติกรรมแรกนี้ คิดว่าหากท่านเป็นคนกรุงเทพ หรือเคยไปเดินตามห้างหรือตามตลาดบางแห่งก็น่าจะเคยพบเห็นกันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งในการขอรับบริจาก ทางตัวผู้กระทำจะมีการเขียนป้ายโครงการขึ้นมาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ โดยข้อมูลในป้ายมักอ้างถึงองค์กรณ์บางองกรณ์ที่อาจจะมีอยู่จริงหรือไม่ก็ได้ เช่นสมาคมคนตาบอดต่างๆ โดยในป้ายจะบ่งบอกจุดประสงค์ของการขอรับบริจากเอาไว้ อาทินำไปช่วยเหลือคนตาบอดในเขตชนบทซึ่งห่างไกล ยากต่อการตรวจสอบ
ถึงแม้ว่าข้อมูลในป้ายนั้นจะดูเป็นโครงการที่ดี ถ้าเงินเหล่านั้นไปถึงมือผู้ที่ต้องการมันจริงๆ แต่ในความเป็นจริง เมื่อกลุ่มคนเหล่านั้นได้รับเงินจากการขอรับบริจากมาแล้ว ก็จะนำเงินเหล่านั้นมาแบ่งสันปันส่วนกัน จากนั้นนำไปใช้จ่ายอันเฉพาะประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น ไม่ได้นำเงินดังกล่าวไปช่วยเหลือคนตาบอดกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือตามที่อ้างถึงแต่ประการใด
ซึ่งความฉลาดของกลุ่มคนเหล่านี้ บางครั้งก็มักจะยกเอาชื่อเสียงของบางองค์กรที่มีอยู่จริงมาอ้างถึง เผื่อบางคนนำชื่อขององค์กรที่อยู่ในป้ายไปค้นหา ก็จะได้เกิดความอุ่นใจ ว่าองค์กรนั้นๆ มีอยู่จริง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว กลุ่มคนดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรที่ว่าเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่ยกชื่อมาอ้างเพียงเท่านั้น
เขียนโครงการขอรับบริจาก แล้วส่งไปเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ
หลายคนอาจจะคิดว่า เมื่อมันเป็นโครงการที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ โครงการช่วยเหลือคนตาบอดเหล่านั้นก็คงจะน่าเชื่อถือ เพราะหากมันคือการหลอกลวง ทางสื่อต่างๆ คงไม่เอามานำเสนอ ซึ่งคิดแบบนั้นก็ไม่ถูกเสียทีเดียว
ต้องขออธิบายก่อนว่า บรรดาสื่อต่างๆ เขามักจะเปิดโอกาสให้องค์กรต่างๆ ส่งข่าวขึ้นประชาสัมพันธ์บนแพล็ทฟอร์มของเขาอยู่แล้ว (Blind living ก็เช่นกัน) ยิ่งเป็นข่าวเชิงขอรับบริจากที่ไม่หวังผลกำไร เขายิ่งยินดีช่วยเหลือเต็มที่ ซึ่งข่าวประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะไม่มีการตรวจสอบอะไรมาก หลายครั้งข้อมูลที่ได้ก็เป็นเพียงจดหมายขอความอนุเคราะห์พร้อมกับรายละเอียดโครงการเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้ใช้ในการประกอบข่าวเท่านั้น ยิ่งโดยเฉพาะหากข่าวดังกล่าวเกี่ยวเนื่องกับองค์กรของคนพิการ ข่าวนั้นยิ่งมีโอกาสถูกละเลยการตรวจสอบได้ง่าย เพราะเจ้าหน้าที่เห็นว่าคงไม่มีใครมาเขียนโครงการหากินกับคนพิการในลักษณะนี้แน่
ซึ่งจากสาเหตุนี้นั่นเอง ทำให้กลุ่มคนบางกลุ่มมักใช้ความเชื่อแบบนี้ในการหาผลประโยชน์ โดยที่คนทั่วไป หรือสำนักข่าวต่างๆ ไม่คิดเฉลียวใจด้วยซ้ำ อีกทั้งการขอรับบริจากทำนองนี้ ผ่านไปไม่นานคนก็ลืม รวมถึงการทำอะไรแบบนี้ ใครเล่าจะมาตรวจสอบ หากไม่มีผู้ร้องเรียนเข้าไป เพราะยอดเงินมันก็ไม่มากมายอะไร (แต่ก็มากพอสมควร)
หากถามว่า แล้วเราจะแยกออกได้อย่างไร ว่าอันไหนจริงอันไหนหลอก ก็คงตอบได้ยาก เพราะบางโครงการเขาก็ทำจริงช่วยด้วยใจจริงๆ แต่ถ้าจะให้แนะนำก็คงจะพอแยกได้ดังนี้
ให้ดูเอกสารที่เกี่ยวกับโครงการให้ถี่ท่วนว่ามีการรับรองจากภาครัฐหรือไม่ และภาครัฐที่รองรับโครงการน่าเชื่อถือมากแค่ไหน (เพราะต่อให้มีเอกสารรับรองจากภาครัฐ บางทีเจ้าหน้าที่ก็สอบถามไปงั้นๆ แล้วก็ออกเอกสารรับรองให้เลย)
ให้ดูชื่อขององค์กรที่ขอรับบริจาก จากนั้นลองค้นหาข้อมูลตาม Google ดูก่อนที่จะบริจาก ซึ่งข้อมูลที่ควรตรวจสอบก็เช่นให้ดูว่าเว็บไซต์ เพจ หรือข่าวต่างๆ ที่เกี่ยวกับตัวองค์กรเป็นอย่างไร มีข้อมูลอัปเดต หรือมีผลงานอะไรที่จับต้องได้หรือไม่
ให้สอบถามข้อมูลก่อนบริจาก ว่าช่องทางการติดตามความคืบหน้าของโครงการนี้ สามารถติดตามได้จากช่องทางไหน เช่นเว็บไซต์หรือโซเชียลขององค์กรดังกล่าว เพราะถ้าบริจากจริง อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีไลฟ์สดหรือไม่ก็รูปภาพให้ดูบ้าง ถ้าทางนั้นปฏิเสธ ให้เชื่อได้เลยว่านั่นเป็นของปลอม
ให้โทรศัพท์ไปสอบถามกับองค์กรคนตาบอดที่มีชื่อเสียง เพราะถึงแม้จะไม่ได้ข้อมูลที่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยๆ ก็น่าจะรู้อะไรบ้าง เพราะวงการตาบอดมันเล็กนิดเดียว ถ้ามีโครงการอะไรขึ้น เขาก็น่าจะรู้กันในระหว่างองค์กร ถ้าเขาบอกไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลย และไม่แนะนำให้บริจาก นั่นแสดงว่าโอกาสที่จะถูกหลอกมีถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
หากเห็นว่าคำแนะนำข้างต้นมันยากเกินไป ให้ลองค้นหาโดยการพิมพ์ว่า “คนตาบอด” ลงในช่องค้นหาของ Google หรือ Facebook จากนั้นลองเข้าไปสอบถามตามเพจต่างๆ หรือกลุ่มต่างๆ ที่พบลองดูครับ อันนี้ก็อาจจะพอช่วยให้ความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง
สรุป
ถึงแม้โครงการขอรับบริจากเพื่อช่วยเหลือคนตาบอดที่ยากลำบากเหล่านี้อาจจะมีโครงการหาประโยชน์เข้าตัวเองอยู่บ้าง แต่ในทางกลับกันก็มีคนที่ทำด้วยใจอยู่จริงๆ ดังนั้นเพียงแค่ก่อนจะบริจาก ขอให้เราตรวจสอบข้อมูลให้แน่นอนลงไปก่อน ให้เรามั่นใจก่อนว่า เงินที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเรา จะไปถึงคนที่เขาต้องการจริงๆ แล้วค่อยบริจากก็ยังไม่สายครับ
อีกประการที่อยากขอความร่วมมือก็คือบรรดาสื่อ หรือสำนักข่าวต่างๆ หากท่านได้รับข้อมูลเพื่อช่วยเผยแพร่ข้อมูลโครงการทำนองนี้ หากเป็นไปได้ ถ้าช่วยตรวจสอบที่ไปที่มา ตรวจสอบข้อมูลของโครงการให้ดีก่อน ก็จะช่วยให้เงินของผู้มีจิตใจดี ไปถึงมือคนที่เขาต้องการได้อย่างจริงแท้แน่นอน ช่วยกันคนละไม้ละมือ ให้สังคมไทยน่าอยู่มากยิ่งขึ้นกันดีกว่า
ผู้อ่านสามารถสนับสนุนเว็บไซต์ โดยการอุดหนุนนิยายบนเว็บไซต์ เขียนกันดอทคอม เว็บไซต์อ่านนิยายที่คนตาบอดเป็นเจ้าของ และอยากให้สังคมการอ่านเป็นของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าตาดีหรือตาบอด
แสดงความคิดเห็น