วิธีการตั้งค่าให้โปรแกรม NVDA ไม่อ่าน ญ บน m.facebook
วิธีการตั้งค่าไม่ให้โปรแกรม NVDA อ่าน ญ ใน m.facebook ของคนตาบอดที่ใช้โปรแกรมอ่านจอภาพ
วิธีการตั้งค่าไม่ให้โปรแกรม NVDA อ่าน ญ ใน m.facebook ของคนตาบอดที่ใช้โปรแกรมอ่านจอภาพ
วันนี้ผมไม่ได้มาเขียนบทความที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตของคนตาบอดแต่อย่างใด ซึ่งหากดูจากชื่อบทความ หลายท่านก็คงเดาออกแล้ว ว่าวันนี้ผมมารีวิวละครเรื่อง “Bangkok รัก Stories ตอนเรื่องที่ขอจากฟ้า” ซึ่งเป็นละครจากทางช่อง gmm25 โดยขณะที่รีวิว ละครเรื่องนี้ได้จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ ฟ้ามีตา ฟ้ามีตาจริงๆ...”
ในช่วงเวลาสั้นๆ 4-5 นาทีที่ชายชราตาบอดคนนี้พูดถึงความรู้สึกที่เขาได้รับการประกาศเกียรติคุณให้เป็นบุคคลเกียรติยศมูลนิธิโกมลคีมทอง เขาพูดประโยคหนึ่งถึงสองครั้ง “ฟ้ามีตา ฟ้ามีตาจริงๆ...”
เครื่อง ศรีบัวพันธุ์ เป็นคนตาบอดผู้ไม่ยอมแพ้ชีวิตและเพราะความมุ่งมั่น ไม่ยอมพ่ายแพ้นี่เอง เขาจึงเป็นหมอนวดตาบอดแผนไทยคนแรกและได้ถากถางให้เพื่อนคนไทยที่มีชะตากรรมเดียวกันได้มีที่ยืนในสังคมอย่างสง่าผ่าเผย และช่วยเหลือตนเอง รวมทั้งสังคมได้อย่างน่าภาคภูมิใจ
หากมีลูกเป็นคนตาบอดควรทำอย่างไรดี? มีโรงเรียนสำหรับคนตาบอดหรือไม่? การศึกษาเป็นอย่างไร? เข้ามาอ่านกัน
หากคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเป็นผู้พิการทางสายตาหรือคนตาบอด ให้ทำใจเย็นๆเอาไว้และอย่าตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะเพียงลูกคุณตาบอด ไม่ได้หมายความว่า เด็กๆ จะใช้ชีวิตบนโลกนี้ไม่ได้อีกต่อไป
สิ่งแรกที่ควรทำก็คือ ติดต่อไปยังองค์กรที่เกี่ยวค่องกับคนพิการทางสายตาเพื่อขอคำแนะนำ เช่นโรงเรียนสอนคนตาบอดต่างๆ ว่าเราควรเลี้ยงพวกเขาในวัยแบเบาะอย่างไร อะไรบ้างที่ควรระวัง
หากเป็นคนปกติ การที่นอนหลับไปแล้ว “ฝัน” ก็คงไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลก แต่หากเป็นคนตาบอด ซึ่งมองไม่เห็น ความฝันของคนเหล่านี้จะเป็นอย่างไร จะเหมือนกันกับคนปกติหรือเปล่า หรือจะแตกต่างกันแค่ไหน เรามาอ่านคำตอบกันครับ
ความฝันของคนตาบอดนั้นจะมีด้วยกันหลายกรณี กรณีที่ว่านี้ก็คือ เราจะต้องทราบก่อนว่าตาบอดที่ว่าเป็นตาบอดประเภทไหน เลือนลาง หรือบอดสนิท
จริงๆ หากพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับการอ่าน หรือเรื่องหนังสือของคนตาบอด หลายๆ คนคงนึกไปถึงเรื่องหนังสือที่เขียนด้วย อักษรเบรลล์ หรือที่มักเรียกติดปากกันว่า “ภาษาเบรลล์”
หรือไม่ หลายๆ คนก็อาจจะนึกไปถึง หนังสือเสียง (Audiobook) ซึ่งเป็นสื่ออีกประเภทหนึ่ง ที่คนพิการทางสายตาหรือคนตาบอดสามารถเข้าถึงได้
สำหรับในบทความนี้ ผมนายสตัง สิทธิโชค จะมาแนะนำวิธีการตั้งค่าเมื่อกดปุ่ม Delete ให้มีคำถามยืนยันก่อนเราจะลบไฟล์ในคอมพิวเตอร์
วิธีตั้งค่ามีดังต่อไปนี้
ขอสวัสดีเพื่อนๆทุกคนทุกท่านที่ติดตามอ่านบทความไอทีของผมนายสตัง สิทธิโชค กันทุกๆท่านครับ
ในบทความนี้มาแบบสั้นๆ เรียบง่าย อ่านสบายๆ รวดเร็วทันใจ นั่นก็คือ วิธีการถอด Flash drive หรืออุปกรณ์ Usb ออกจากคอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธี
คนตาบอดรักกันยังไง มีความรักได้ไหม มีเซ็กส์ได้หรือเปล่า มีลูกได้หรือไม่ มาอ่านคำตอบกัน
ใช่ครับ ในบทความนี้ เราจะมาพูดเรื่องตามหัวข้อนั่นแหละครับ อันที่จริงแล้วเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์โลก แต่ก็ยังมีคนสงสัย แล้วในเมื่อมีคนสงสัย ผมก็จะอาสามาไขข้อกระจ่างให้ได้อ่านกันครับ
เรามาเริ่มที่ประเด็นแรกกันดีกว่า
ท่านที่เป็นคนปกติคงจะแอบสงสัยในข้อนี้กันอยู่อย่างแน่นอน เพราะผมแอบเห็น ตั้งกระทู้ ถามกันในเว็บ Pantip ซึ่งก็มีคนให้ความสนใจกันพอสมควร ดังนั้นผมจึงได้เขียนบทความนี้ขึ้น เพื่อสร้างเสริมความเข้าใจในประเด็นนี้กันครับ
หากถามว่าคนตาบอดจะรู้หรือเปล่าว่ามนุษย์หน้าตาแบบไหน ผมคงตอบได้ว่ารู้ แต่ที่รู้ ไม่ได้หมายความว่าสามารถแยกแยะหน้าตาคนออกนะครับ แต่รู้เพราะการสัมผัส
ขอสวัสดีเพื่อนๆชาวไอทีทุกๆท่านครับ
นี่ก็เป็นบทความแรกที่ผมได้เขียนขึ้นมาเพื่อแบ่งปัญความรู้ เรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับไอทีของคนตาบอด ผมก็ขอฝากทุกท่านคอยติดตามบทความใหม่ๆที่เกี่ยวกับเรื่องราวไอทีของผมนายสตัง สิทธิโชค ด้วยนะครับ
การเขียนบทความ ผมขออนุญาตเขียนตามสตายของผมนายสตัง สิทธิโชคนะครับ
ไม่ให้เสียเวลา เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่านะคร้าบบบ
สำหรับบทความแรกนี้ ผมจะมาแนะนำวิธีการใช้งานโปรแกรม Disk cleanup ครับ
โปรแกรม Disk cleanup คือโปรแกรมอะไร
“ระวังชน / ระวังข้างหน้า…” (แบบหลอกๆ) คำพูดเล่นๆ ของคนปกติ แต่ความรู้สึกไม่เล่นสำหรับคนตาบอด
ตอนสมัยผมเรียนอยู่ชั้นประถมจวบจนถึงชั้นมัธยม หรือแม้แต่กระทั่งทุกวันนี้ ก็ยังคงพบเจอสถานการณ์โดนหลอกอยู่บ่อยๆ หลอกที่ว่านี้ไม่ได้เสียหายร้ายแรงอะไร แต่มันก็ทำให้หงุดหงิดและเสียความรู้สึกอยู่เหมือนกัน
เหตุการณ์ที่ว่านั่นก็คือ ในระหว่างที่กำลังเดินไปที่ไหนสักที่ จะมีคนปกติ “จำพวกหนึ่ง” ที่คอยตะโกนบอกทางอยู่เสมอ ซึ่งหากทางที่ว่านั่นมีสิ่งที่ควรระวังอยู่จริง ก็คงจะเป็นพระคุณไม่น้อย ทว่าคำเตือนเหล่านั้น กลับกลายเป็นเพียงคำโกหกขำๆ ของคนบางคนหรือบางกลุ่ม!
สำหรับบทความนี้ก็เช่นเคยครับ ผมจะมาคลายข้อสงสัย และตอบคำถามที่หลายๆ คนคงอยากรู้กันเช่นเคยครับ
“คนตาบอดอยู่คนเดียวได้ไหม? แล้วอยู่กันยังไง จะไปซื้อข้าวแบบไหน ใครพาไป??”
นี่ก็คงเป็นอีกหนึ่งข้อสงสัยใช่มั้ยละครับ ซึ่งผมตอบได้เลยว่า ได้ครับ
ขอยกตัวอย่างเลยนะครับ ตอนนี้เนี่ย ผมกำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ซึ่งผมออกมาเช่าหอนอกอยู่ เนื่องจากการเข้าออกสะดวก และการหาของกินนั้นง่ายกว่าหอข้างในมาก โดยทีแรกนั้นก็จะลำบากนิดหน่อยเพราะไม่ชินกับสถานที่ และผู้คน
คุณอยากรู้จักการดำเนินชีวิตทั่วไปของผู้พิการทางสายตาหรือเปล่า...? ถ้าคุณอยากรู้ หรือมีความสนใจ บทความนี้...สามารถตอบคุณได้แน่นอน!
“คุณซักผ้าเองหรือเปล่า?”
“ใครอาบน้ำให้น้องเหรอจ๊ะ?”
“กินข้าวยังไงเนี่ย? ใครป้อนเหรอ?”
“รีดผ้ากันยังไง เตารีดไม่ลวกเหรอ?”
“แล้วเล่นอินเทอร์เน็ตกันยังไง โพสต์เอง พิมพ์เอง ลงบทความเองหรือเปล่า??”
...และอีกมากมาย...
หลายครั้ง ที่ผมพบคำถามมากมายจากคนทั่วไป โพสต์ถามกันในเว็บบอร์ด ประมาณว่า “คนตาบอดใช้ชีวิตอย่างไร” มีกระทั่งว่า “คนพิการประเภทไหน ใช้ชีวิตได้ลำบากที่สุด” ซึ่งคำตอบส่วนใหญ่ที่คนปกติมักตอบกัน ก็จะเป็นทำนองเดียวกันก็คือ “คนตาบอด เป็นความพิการที่ใช้ชีวิตยากที่สุด ตามองก็ไม่เห็น ถ้าหูหนวก ยังไปไหนมาไหนได้ ถ้าประเภทร่างกาย ก็ยังมองเห็นและได้ยิน มีตาบอดนี่แหละ ลำบากสุดแล้ว” ถามว่าความคิดทำนองนี้ถูกต้องหรือไม่...คำตอบคือ ไม่ถูกเสียทั้งหมดครับ
หลายครั้ง ที่เวลาคนตาบอดจะไปไหนมาไหน หรือจะทำอะไร ส่วนใหญ่ ก็มักจะได้รับการดูแลที่ดีกว่าคนปกติทั่วไป ซึ่งนั่นถือเป็นสิ่งที่ดีมาก ในความรู้สึกของคนตาบอด
เพราะต้องยอมรับว่า บางอย่าง หรือบางสถานการณ์ เราก็ไม่สามารถที่จะพึ่งพาตนเองได้เต็มที่มากนัก ดังนั้นจึงต้องมีบุคคลทั่วไป คอยให้การช่วยเหลือในบางครั้ง...และนี่เอง
คือที่มาของคำว่า "คนพิเศษ" หรือหากอยู่ในวัยเรียน ก็จะถูกเรียกว่า "เด็กพิเศษ" นั่นเองครับ
หลายคนถามหาโอกาส แต่ไม่วิ่งหาโอกาส
ยิ่งโดยเฉพาะคนตาบอดด้วยแล้ว มีหลายคนที่บอกว่าตนไม่ได้รับโอกาส หรือโอกาสมีไม่มากพอ
แต่ผมว่าที่จริงแล้ว ถ้าเราวิ่งหาโอกาส คนตาบอดเราก็มีโอกาสนะ
ในปัจจุบัน คนไทยยังขาดความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวกับคนตาบอดอยู่มาก คนบางกลุ่มยังคิดอยู่เลยว่า คนตาบอดจะทำอะไรได้ แม้แต่อาบน้ำกินข้าวยังต้องมีคนช่วย เชื่อหรือเปล่าว่าความคิดแบบนี้ยังหลงเหลือในสังคม แถมเยอะด้วย
คนไทยราวเจ็ดสิบล้านคน จะพอเข้าใจคนตาบอดอยู่บ้างราวๆ 25% และยอมรับในความสามารถของคนตาบอดจริงๆ คงประมาณ 10% ได้มั้ง