คนตาบอดรักกันยังไง มีความรักได้ไหม มีเซ็กส์ได้หรือเปล่า มีลูกได้หรือไม่ มาอ่านคำตอบกัน

คนตาบอดรักกันยังไง มีความรักได้ไหม มีเซ็กส์ได้หรือเปล่า มีลูกได้หรือไม่ มาอ่านคำตอบกัน

ใช่ครับ ในบทความนี้ เราจะมาพูดเรื่องตามหัวข้อนั่นแหละครับ อันที่จริงแล้วเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์โลก แต่ก็ยังมีคนสงสัย แล้วในเมื่อมีคนสงสัย ผมก็จะอาสามาไขข้อกระจ่างให้ได้อ่านกันครับ

เรามาเริ่มที่ประเด็นแรกกันดีกว่า

“คนตาบอดรักกันยังไง?”

ผมขออนุญาตตั้งคำถามว่า สำหรับคนปกติแล้ว “ใช้ตารักกันหรือไม่?” หลายๆ ท่านอาจตอบว่า “ใช่ เพราะถ้าเรามองไม่เห็น เราจะรู้ได้ยังไงว่าใครสวยใครหล่อ คนไหนถูกใจไม่ถูกใจ” ผมอยากจะบอกว่า ถ้ากำลังคิดแบบนั้นอยู่มันก็มีส่วนถูกอยู่บ้างแต่ไม่ทั้งหมด

การมองเห็นรูปร่างลักษณะท่าทาง มันเป็นแค่ความพึงพอใจครับไม่ใช่ความรัก แต่ก็ไอ้ความพึงพอใจนี่แหละ ที่จะนำไปสู่ความรัก

แล้วความพึงพอใจ มันมีแต่การมองเท่านั้นหรือ? คำตอบคือไม่ครับ

ความพึงพอใจมันมีได้หลายลักษณะ เช่นนิสัย น้ำเสียง รูปร่างหน้าตา ทัศนคติฯ

เพียงแค่ว่าคนปกติส่วนใหญ่ จะให้ความสำคัญกับการมองมาก่อนเท่านั้นเอง ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะในประสาทการรับรู้ของมนุษย์ การมองเห็นถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีระยะไกลที่สุด ดังนั้นเราจึงใช้สิ่งที่เห็นไกลที่สุดนี่แหละ ในการพิจารณาผู้คนที่ผ่านเข้ามา

ในกรณีเดียวกันนี้ คนตาบอดจะใช้การฟังครับ การฟังที่ว่าก็คือ เมื่อเราได้ยินเสียงพูดของอีกฝ่าย เราจะเริ่มตัดสินในทันทีว่า “เสียงใครน่ารัก และไม่น่ารัก” หรือ “เสียงใครหล่อ ไม่หล่อ” เพราะว่าประสาทการรับรู้ของพวกเราที่จะสังเกตสิ่งรอบข้างได้หลักๆ ก็คือการฟัง

คิดว่าในส่วนการฟังแล้ว คงมีคนปกติไม่มาก ที่จะมานั่งจับสังเกตคนที่ตัวเองชอบว่า “เสียงดีหรือไม่ดี” เพราะก็มองเห็นอยู่แล้ว ว่าอีกฝ่ายหน้าตาเป็นยังไง

คนตาดี = มอง คนตาบอด = ฟัง

ส่วนขั้นตอนถัดมาก็คล้ายๆ กันนั่นแหละครับ คือศึกษานิสัยใจคอกัน ดูว่าทัศนคติตรงกันหรือไม่ ทำงานอะไร ครอบครัวเป็นยังไง เรียกได้ว่านอกจากขั้นตอนแรกแล้ว ส่วนอื่นๆ ที่ตามมานั้นเหมือนกันหมด

เอาเป็นว่าประเด็นนี้ทุกคนคงเข้าใจกันแล้ว งั้นเราจะไปประเด็นต่อไปกัน

“คนตาบอดมีความรักได้ไหม?”

จริงๆ ถ้าได้อ่านประเด็นที่แล้ว คิดว่าทุกท่านคงมีคำตอบแล้วว่า “ได้” แต่ที่ต้องเขียน เพราะผมจะขออธิบายประเด็นนี้เพิ่มนิดหนึ่ง

หลายคนอาจจะคิดว่า “คนตาบอด จะต้องรักกับคนตาบอด” จริงๆ แล้วไม่ใช่นะครับ เพราะคนตาบอดเอง ก็สามารถรักกับคนปกติ หรือคนพิการประเภทอื่นได้เช่นกัน อันที่จริงมีเยอะด้วย แต่เขาคงไม่มาออกข่าวให้สังคมรับรู้หรอกครับ เพราะดาราก็ไม่ใช่ แถมนี่ยังเป็นเรื่องส่วนตัวอีก

“แล้วคนตาบอดจะรักกับคนปกติได้ยังไง?” ก็อย่างที่อธิบายไปนั่นแหละครับ นอกจากขั้นตอนมอง / ฟัง แล้ว ขั้นตอนอื่นๆ ก็เหมือนกันหมด รักกัน อยู่ด้วยกัน ทำงานช่วยกัน เข้าใจกัน มันก็อยู่ด้วยกันได้ไม่เห็นแปลก เพราะคนตาบอดก็ทงานบ้านได้นะครับขอบอก เราไม่ได้ปล่อยให้คู่ของเราดูแลเราฝ่ายเดียวนะ เราก็ดูแลเขาได้ในแบบของเราเช่นกัน เผลอๆ จะดูแลดีกว่าคู่คนปกติบางคู่ด้วยซ้ำเพียงแค่ที่เราทำไม่ได้แน่ๆ ก็คือขับรถให้คนรักนั่ง อืม...อันนี้ไม่ไหวจริงๆ 55

ใครที่คิดว่า แต่งงานกับคนตาบอดแล้วต้องคอยดูแลทุกอย่างบอกเลยว่าไม่จริงครับ งานบ้านงานเรือน งานนอกงานใน งานได้เงินและไม่ได้เงิน เราก็ทำได้ใกล้เคียงกับคนตาดีนั่นแหละ ที่พูดว่า “ไกล้เคียง” ก็เพราะว่ามันก็มีบางส่วนที่ทำไม่ได้ (เช่นขับรถ ทาสีฯ เป็นต้น) ซึ่งงานพวกนั้นมันต้องใช้ตาเป็นปัจจัยหลัก แต่ถ้าเป็นพวกซักผ้า ถูบ้าน ล้างจาน ทำงานออฟฟิศ (ที่เหมาะกับความสามารถ) เราก็ทำได้ หาเงินเดือนได้ไม่ต่างกัน อย่างตอนนี้ก็มีทำงานเป็นพนักงานในออฟฟิศกันไม่น้อยนะครับ ไม่รู้ว่าสังเกตเห็นกันหรือเปล่า อีกทั้งเราจะต้องเข้าใจว่า ต่อให้เป็นคนตาดีเอง ก็ใช่ว่าจะทำได้ทุกอย่าง ทุกคนล้วนแต่มีสิ่งที่ถนัดและไม่ถนัดด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นจึงไม่มีใครสมบูรณ์แบบ

เอาเป็นว่าถ้าเราเปิดใจ จะเป็นความรักแบบไหนมันก็ได้หมดละครับ แต่ถ้ายังไม่เปิดใจ หรือยังจมอยู่กับความเชื่อตั้งแต่สมัยโบราณล้านปี เราก็จะเชื่ออยู่แบบนั้น ต่อให้อธิบายแค่ไหนก็คงไม่มีประโยชน์จริงไหมครับ?

เรามาเข้าประเด็นต่อไปกันดีกว่า

“คนตาบอด มีเซ็กส์ได้หรือเปล่า”

แน่นอนครับว่ามีได้! เราบอดแต่ตานะครับ แต่อย่างอื่นไม่ได้ ‘บอด’ เพียงแค่ปรับท่อน้ำให้ตรงกันเท่านั้นแหละครับ อย่างอื่นก็จะเดินไปตามสิ่งที่มันควรจะเป็นนั่นแหละ ถ้าให้เปิดอกอีกนิด ผมก็จะบอกว่า “ไม่ได้ทำแต่ท่าเดิมๆ แน่นอน เพราะท่าอื่นๆ มันก็ต้องมีบ้าง” ดังนั้นใครที่กังวลเรื่องเซ็กส์อยู่ ให้สบายใจได้เลยครับ

แล้วหากถามว่า “คนตาบอดจะมีอารมณ์ทางเพศได้ยังไง?”

ถ้าเป็นคนปกติก็คงเป็นการมอง ฟัง และสัมผัสทางร่างกายแต่ถ้าเป็นของคนตาบอดก็จะเป็นการฟังหรือได้ยิน และสัมผัสทางร่างกายครับ

ตาดี = หุ่นดีผิวขาว น่ารัก สัมผัสลูบไล้บลาๆ

ตาบอด = เสียงน่ารัก (ถ้าได้รักกันแล้วก็จะสัมผัสทางร่างกาย แล้วก็เสียงครางของผู้หญิง / ผู้ชาย)

ส่วนการดูหนังโป๊ก็จะประมาณนี้ครับ

ตาดี = ดู แถมฟังบ้างนิดหน่อย

ตาบอด = ฟังเอาโดยเฉพาะเสียงครางของเพศตรงข้าม

ส่วนเรื่องช่วยตัวเอง ก็เหมือนกันทุกประการครับ

ประเด็นนี้ขยายความมากไม่ได้ (ความลับ) งั้นเราไปประเด็นสุดท้ายกันดีกว่าครับผม

“คนตาบอด มีลูกได้หรือไม่”

มีเซ็กส์ได้ ก็ต้องมีลูกได้สิครับ ถ้าศักยภาพทางเพศของทั้งคู่มีสุขภาพดี

ในส่วนเรื่องที่กลัวว่า “ถ้ามีลูก ลูกจะตาบอดหรือไม่” อันนี้ คนตาบอดมันก็มีทั้งแบบเป็นกรรมพันธุ์ และไม่ได้เป็นกรรมพันธุ์นะครับ

ถ้าเป็นกรรมพันธุ์ เราก็ต้องมาแยกออกอีกว่าเป็นกรรมพันธุ์แบบไหน ถ้าสมมุติว่า เป็นกรรมพันธุ์แบบที่เครือญาติแต่งงานกันเอง เลยทำให้คนรักของคุณตาบอด อันนั้นไม่มีปัญหาครับ ถ้าคุณมั่นใจว่า คุณกับแฟนไม่ได้มีสายเลือดที่เกี่ยวค่องกันก็สบายใจได้ แต่จะอย่างไร ก็อย่าลืมไปปรึกษาแพทย์ร่วมด้วยนะครับ ลูกจะได้แข็งแรงเนอะ

ส่วนกรรมพันธุ์ในแบบอื่นๆ ตอนนี้การแพทย์ก็พัฒนาแล้วนะครับ เขาสามารถคัดเชื้อตัวที่ปลอดภัยเพื่อนำมาผสมกับไข่ของผู้หญิงได้แล้ว หรือไม่ก็ทำเด็กหลอดแก้ว ดังนั้นเรื่องนี้ ก็แก้ปัญหาได้เช่นกันครับ

อันที่จริงเรื่องกรรมพันธุ์นี่ มันก็ไม่ได้มีแต่ตาบอดนะครับ พิการแบบอื่นๆ หรือโรคอื่นๆ ก็มี ดังนั้นถึงไม่ได้รักกับคนตาบอด ก่อนมีลูกก็ควรที่จะไปปรึกษาแพทย์อยู่ดีจ้า

ส่วนตาบอดที่ไม่ใช่กรรมพันธุ์ อันนี้ไม่มีผลกระทบต่อการมีลูกครับ ถ้าสุขภาพทางเพศยังดี ก็ไม่มีปัญหา แต่ก็เตือนแถมท้ายอีกนั่นแหละครับ ว่าโรคทางพันธุกรรมหรือกรรมพันธุ์ มันมีหลายอย่าง ดังนั้น ถ้าคิดจะสร้างครอบครัวมีลูกด้วยกัน ทางที่ดี ควรปรึกษาแพทย์ร่วมด้วยจะดีกว่าครับผม

ประเด็นเหล่านี้ คงจะทำให้ท่านคลายความสงสัยกันแล้วนะครับ ในเมื่อไม่สงสัยกันแล้ว ก็อย่าลืมเปิดใจให้คนตาบอดกันด้วยนะครับผม คนตาบอดเรา ไม่ได้เหมือนคนตาบอดสมัยหลายร้อยปีที่แล้วดั่งที่ความเชื่อ หรือคำสุภาษิตว่าเอาไว้นะครับ แต่เราก็มีการศึกษา มีความรู้ มีความสามารถ มีศักยภาพมากพอ ที่จะเดินอยู่ในสังคมคนปกติได้ไม่ต่างจากคนอื่นๆ เช่นกันครับ

ขณะนี้ความรู้ที่เกี่ยวกับคนตาบอดยังเข้าถึงคนในสังคมได้น้อย ดังนั้นหากใครที่ได้อ่านแล้ว ผมรบกวนอย่าลืมแชร์ไปให้คนอื่นๆ ได้อ่านกันบ้างนะครับผม

แล้วพบกันบทความต่อๆ ไปครับ