คุณอยู่ที่

ถึงเวลาเปลี่ยนความเชื่อด้านความรักให้กับสังคม : เพื่อครอบครัวที่เท่าเทียมของคนตาบอด

ปรับขนาดตัวอักษร

-A A +A
รูปภาพของ suriyan
เขียนโดย suriyan เมื่อ พุธ, 09/16/2020 - 15:18

เพราะทุกคนมีสิทธิ์เลือกได้ ดังนั้นเมื่อมีการพูดถึง “คู่ชีวิต” หรือ “คู่รัก” หลายคนจึงมักจะโยนคนพิการห่างไกลออกจากเรื่องทำนองนี้ ซึ่งเหตุผลก็มีมากมายต่างกันไป

ไม่ว่าจะเป็นไม่อยากดูแลหาภาระเพิ่มให้ตัวเอง

ไม่มั่นใจว่าจะดูแลได้อย่างถูกวิธี

แค่นี้ชีวิตตัวเองก็วุ่นวายพออยู่แล้ว

คนตาบอดจะดูแลเราได้ยังไง

คนตาบอดจะมีงานทำเลี้ยงตัวเองได้หรือ ไม่งั้นค่าใช้จ่ายเราต้องเป็นคนออกสิ

เรื่องเซ็กส์จะมีปัญหามั้ย

อายจังเลย มาคบคนตาบอดเนี่ย

ฯลฯ...

มาถึงจุดนี้ ขอบอกเลยว่าปัญหาที่ไล่ๆ มา รับรองเลยว่าคนตาบอดหลายคนแทบไม่มีปัญหาในส่วนนี้

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ตัวคนตาบอดเองก็มีหลากหลายไม่ต่างจากคนทั่วไป มีทั้งคนทำงาน คนตกงาน คนจน คนรวย คนขยัน คนขี้เกียจ คนหล่อ คนสวย คนไม่หล่อ คนไม่สวย คนนิสัยดี คนนิสัยไม่ดี ดังนั้นแล้วเราจะเอาคนตาบอดที่เราพบเจอในชีวิต ไปตัดสินคนตาบอดคนอื่นไม่ได้

เมื่อเราทำความเข้าใจได้แล้ว สิ่งที่เราควรเข้าใจต่อมาเลยคือ คนตาบอดไม่ได้แย่ขนาดนั้น เพราะคนตาบอดสามารถดูแลตัวเองได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกิจวัตรประจำวัน การเดินทาง หรือแม้กระทั่งเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งคนเป็นแฟนไม่ต้องมาพลอยลำบากในเรื่องนี้เลย การเป็นแฟนคนตาบอดก็ไม่ต่างจากคบคนปกติ กล่าวคือช่วยกันทำมาหากิน ดูแลครอบครัว ดูแลซึ่งกันและกัน

ไม่ต้องกังวลว่าถ้าไม่มีใครอยู่บ้าน แล้วคนตาบอดจะอยู่จะกินยังไง เพราะเขาช่วยตัวเองได้

ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะเบียดเบียนเงินคุณ เพราะเขาก็ทำงานหาเงินใช้เอง

ไม่ต้องกลัวว่าต้องคอยรับคอยส่ง ถ้าแถวนั้นมีรถสาธารณะ

คือเอาจริงๆ นอกจากเรื่องที่จะต้องวางสิ่งของในห้องให้เป็นที่เป็นทางเพื่อให้คนตาบอดหาเจอง่ายๆ เรื่องอื่นๆ แทบไม่มีปัญหาเลย รวมถึงเรื่องเซ็กส์และเรื่องมีลูกด้วย

หลายๆ คนบอกรู้สึกอายถ้าจะรักกับคนตาบอด กลัวญาติๆ ไม่ยอมรับ

เอาตรงๆ ว่า ไม่มีอะไรต้องอาย เชื่อหรือเปล่า ว่าคนตาบอดบางคนหาเงินเก่ง มีบ้านมีรถ แถมไม่มีหนี้ให้ต้องป่วดหัว หลายคนเก็บเงินสร้างบ้านให้ครอบครัวด้วยซ้ำ ชนิดที่ว่าคนตาดีหลายคนยังทำไม่ได้ แล้วมีเหตุผลอะไรต้องอาย บางคนมีธุรกิจทางบ้านเป็นของตัวเองก็ยังมี

คนภายนอกมองเข้ามาอาจจะว่าคนพิการน่าสงสาน ซึ่งก็จริงหากมองในตัวบุคคล แต่ในทางกลับกันก็มีคนตาดีอีกไม่น้อยที่น่าสงสานไม่ต่างกันไม่ใช่หรือ?

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ก็คงพอเข้าใจว่าคนตาบอดก็มีชีวิตต่างกันไป มันเป็นเรื่องธรรมดาที่หนีไม่พ้น

ร่างกายไม่ครบ ไม่ได้หมายความว่าจะสร้างครอบครัวกับคนปกติไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าคนที่มาเป็นแฟนจะต้องหาเลี้ยง คนพิการ หรือคนตาบอดที่ต้องการมีครอบครัวจะไม่มีทางคิดแบบนั้น

คนตาบอดก็รู้สึกเหมือนกันว่า คู่ชีวิตหรือคู่รัก จะต้องเป็นคนที่อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันเท่าที่จะอำนวย พึ่งพาอาศัยกัน แบบนั้นชีวิตคู่ถึงจะไปรอด

แนวคิดที่ว่า “อย่าไปเอานะคนตาบอด เอามาก็ต้องคอยดูแล ช่วยตัวเองก็ไม่ได้” ควรหมดไปได้แล้ว เพราะทุกวันนี้ไม่จริงเลย

จริงอยู่ที่ว่าคนตาบอดขับรถให้คุณนั่งไม่ได้ แต่คนตาบอดก็ดูแลคุณได้ในแบบที่ต่างออกไป อย่าไปคิดว่าคบกับคนตาบอดแล้วจะเหนื่อยหรือลำบาก เพราะบางทีคบกับคนตาดีคุณอาจจะเหนื่อยกว่าก็ได้ใครจะรู้

การรักกับคนตาบอดมันไม่ยากเลย แค่มีคำว่า “เปิดใจ” เป็นพื้นฐาน จะลองคบลองศึกษาวิถีชีวิตกันก่อนก็ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้

อย่าไปเชื่อประโยคที่ว่า “เขาว่ามา” หากยังไม่ได้ลองเข้ามาสัมผัส เพราะคุณจะรู้ได้ยังไงว่าคนที่พูด เขารู้จักคนตาบอดแล้วจริงๆ


ผู้อ่านสามารถสนับสนุนเว็บไซต์ โดยการอุดหนุนนิยายบนเว็บไซต์ เขียนกันดอทคอม เว็บไซต์อ่านนิยายที่คนตาบอดเป็นเจ้าของ และอยากให้สังคมการอ่านเป็นของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าตาดีหรือตาบอด

ให้ดาวบทความนี้: 
Average: 5 (2 votes)

แสดงความคิดเห็น