คุณอยู่ที่

รีวิว พิสสวาท เดอะมิวสิคัล กับประสบการณ์รับชมละครเวทีเรื่องแรกของผม

ปรับขนาดตัวอักษร

-A A +A
รูปภาพของ Akkaradech
เขียนโดย Akkaradech เมื่อ จันทร์, 06/19/2023 - 12:35

หลังจากได้ทำการเข้าชมละครเวที เมื่อวันสุกร์ที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา ผมต้องใช้เวลาถึง 2 วัน เพื่อเรียบเรียงประเด็นให้อ่านง่าย และไม่ยืดเยื้อจนเกินไป และนี่... คือมุมมองที่ผมมีต่อละครเวทีเรื่องนี้ครับ

ก่อนอื่นต้องขอเริ่มต้นแบบนี้ครับว่า ผมไม่เคยได้รับชม หรือรับรู้เรื่องราวของคุณอุบล และพระอัคนี ผ่านสื่อใดมาก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ หรือละครโทรทัศน์ จึงไม่อาจจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้ชัดเจน กับพิสสวาท ที่เคยทำออกมาเผยแพร่ในเวอร์ชันอื่นๆก่อนหน้านี้ ดังนั้น ผมจะโฟกัสไปเล่าถึงความประทับใจ ที่ได้จากละครเวทีเรื่องนี้เป็นหลักเลยนะครับ...

พิสสวาท เดอะมิวสิคัล เป็นเรื่องราวที่เล่าถึง "คุณอุบล" นางรำในสมัยอยุธยาตอนปลาย รับบทโดย แก้ม กุลกรณ์พัชร์ โพธิ์ทองนาค นักแสดงละครเวทีชาวไทย ที่เคยได้รับคัดเลือกให้ร่วมแสดงละครเวทีระดับโลกอย่าง The king and I และพระอัคนี วชิรบดินทร์ รับบทโดย ตู่ ภพธร ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดของละครเวที จะเป็นการเล่าเรื่องแบบตัดสลับระหว่างยุคปัจจุบันชาติ ที่พระอัคนี ได้มาเกิดเป็นอาจารย์สอนโบราณคดี และคุณอุบล ที่ต้องกลายมาเป็น "โสมเฝ้าทรัพย์" ทำหน้าที่พิทักษ์รักษาทรัพย์สมบัติแผ่นดิน ในขณะเดียวกัน ก็รอคอยที่จะพบกับพระอัคนี เพื่อชำระปมแค้นที่ฝังแน่นอยู่ในใจของคุณอุบลเอง ผ่านการแปลงกายจากดวงวิญญาณ มาเป็นหมอดูชื่อดังที่ชื่อ "สโรชินี" และอดีต ที่จะเล่าให้เห็นความสัมพันท์ของตัวละครทั้งหมดในฉากปัจจุบันอีกที... ซึ่งเรื่องที่ผมไม่คาดคิดว่า จะถูกนำมาเป็นฉากสำคัญของเรื่อง ก็คือ "ฉากระหว่างความเป็นกับความตาย" ที่มียมบาลมาเป็นผู้ตัดสิน ตรงนี้จะไม่ลงรายละเอียดเยอะ เพราะอยากให้ไปดูกันเองน่ะครับ บอกเลยว่า เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องเลยทีเดียว...

เป็นที่น่าสนใจมากว่า การที่ต้องย่อเนื้อหาจากละครโทรทัศน์ ให้มาอยู่ในระยะเวลาจำกัดเพียง 2 ชั่วโมงกว่า ผู้ถ่ายทอดเรื่องราว จะต้องเลือกเก็บบางประเด็นไว้ และตัดรายละเอียดบางอย่างออกไป เพื่อให้เรื่องราวที่สื่อสารออกมา อยู่ภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งตรงนี้ ผมมองว่า พิสสวาท เดอะมิสิคัล เลือกนำเสนอแต่ละประเด็นออกมาได้อย่างดีมากๆ ทั้งการเปิดเผยถึงความเข้าใจของคุณอุบล ที่มีต่อพระอัคนีในอดีต หรือฉากปัจจุบัน ที่นำเอาประเด็นการเมืองมาสอดแทรกได้อย่างน่าสนใจ เหนืออื่นใด ที่เป็นเสน่ห์มากๆ ของละครเวที ก็คือ "บทเพลง" ที่เป็นส่วนหนึ่งในการบอกเล่าเรื่องราว และเป็นตัวดำเนินเรื่องไปในเวลาเดียวกัน บอกเลยว่า เพราะทุกเพลง แม้แต่ฉากสงครามในสมัยอยุธยาตอนปลาย ก็ยังนำเสนอเป็นบทเพลง ประกอบกับการแสดง และ sound effect ต่างๆ จนเป็นอีกฉากหนึ่งที่ผมยกให้เป็นฉากประทับใจที่สุดเลยก็ว่าได้...

อีกฉากที่ประทับใจไม่แพ้กัน คือ ฉากที่พระอัคนี จะต้องตัดศีรษะคุณอุบล ภายในวัด เพื่อให้เป็นดวงวิญญาณพิทักษ์สมบัติแผ่นดินไว้ ก่อนกรุงแตก ตรงนี้ผมบอกเลยว่า ทำเอาหลายคนน้ำตาซึมไปตามๆกัน ขนาดผู้ชายอกสามศอกอย่างผม ยังต้องปาดน้ำตา เพราะมันสื่ออารมณ์ให้เห็นถึงความรู้สึกภายในของพระอัคนี ที่จำเป็นต้องทำเพื่อชาติ และคุณอุบล ที่ไม่ได้รู้ล่วงหน้าถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น แต่ต้องตกปากรับคำ เพียงเพราะพระอัคนีบอกให้เอ่ยคำสัญญานั้นออกมา หลังสิ้นเสียงดาบ ทั้งโรงละครคือเงียบสนิทไปชั่วครู่เลย มันอินกันถึงขนาดนั้น...

นอกจากตัวหลักแล้ว ตัวละครเสริมทั้ง เชษฐ์ และธิพย์ ต่างก็มีบทบาทและเรื่องราวเป็นของตัวเอง ซึ่งผมอยากให้ลองเปิดใจไปดูมากๆ แล้วจะรู้ว่า มันคุ้มค่าเกินบรรยาย แม้ว่าจะไม่มีคำบรรยายภาพ แต่เราก็สามารถที่จะซึมซับเรื่องราวได้ผ่านบทเพลง และทุกประโยคบอกเล่าของนักแสดง กว่าจะมาถึงวันแสดงจริง ผมบอกได้เลยว่า ต้องผ่านการซ้อมมาอย่างหนักหน่วง เพื่อที่จะถ่ายทอดเรื่องราวได้สมจริงแบบนี้ และสำหรับคนตาบอด ที่อาจจะมีความกังวล ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลมั้ย เดินทางยากรึเปล่า บอกเลยครับว่า เจ้าหน้าที่ดูแลดีมากๆ หลังจากการแสดงจบ เจ้าหน้าที่จะพาเรามาส่งถึงจุดที่เราจะสามารถเดินทางไปต่อเองได้ ในกรณีย์ของผมคือ เจ้าหน้าที่มาส่งถึงรถไฟฟ้าเลย การบริการให้เต็มสิบไม่หัก รู้แบบนี้แล้ว ขอถือโอกาสเชิญทุกคน ซื้อบัตรไปดูกันครับ การแสดงจะมีถึงวันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคมนี้เท่านั้นน้าาาา

ขอบคุณที่อ่านรีวิวนี้จนจบ และหวังว่า ละครเวที จะเป็นอีกมหรสพ ที่หลายๆคนจะลองเปิดใจไปดูกัน แล้วจะไม่ผิดหวัง ทิ้งท้ายไว้แค่นี้ ขอบคุณครับ


ผู้อ่านสามารถสนับสนุนเว็บไซต์ โดยการอุดหนุนนิยายบนเว็บไซต์ เขียนกันดอทคอม เว็บไซต์อ่านนิยายที่คนตาบอดเป็นเจ้าของ และอยากให้สังคมการอ่านเป็นของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าตาดีหรือตาบอด

ให้ดาวบทความนี้: 
No votes yet

แสดงความคิดเห็น