คุณอยู่ที่

กฎหมายการจ้างงานคนพิการ

ปรับขนาดตัวอักษร

-A A +A

การจ้างงานคนพิการ: การส่งเสริม สิทธิประโยชน์ และประเด็นที่ควรพิจารณา

ภาพวาดของผู้ชายคนหนึ่งที่สวมแว่นตาดำและสวมเสื้อแขนยาวสีส้ม เขากำลังถือไม้เท้าสำหรับคนตาบอดด้วยมือขวา และมือซ้าถือถุงพลาสติกสีขาวที่มีสิ่งของอยู่ข้างใน เขาสวมกางเกงขายาวสีเข้มและรองเท้าผ้าใบ มีท่าทางกำลังเดินอยู่บนพื้นสีเทาอ่อนโดยไม่มีฉากหลังอื่นใดเพิ่มเติม

ปัจจุบัน การจ้างงานคนพิการมีพัฒนาการที่ดีขึ้น และมีแนวโน้มที่จะพัฒนาต่อไปในทางที่ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี ประเด็นที่ควรตั้งคำถามคือ การจ้างงานดังกล่าวมี “เนื้อนัย” ที่ดีขึ้นจริงหรือไม่ ซึ่งสามารถแบ่งเป็นประเด็นสำคัญ 3 ประการ ดังนี้

ชวนส่องมาตรา 35 พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นสัญญาประเพทใด ทำไมคนพิการที่ทำงานมาตรานี้ยังมีความเสี่ยงเรื่องอาชีพ

กลุ่มคนในออฟฟิศที่กำลังประชุมกัน มีผู้ชายผมทองใส่แว่นกันแดดนั่งอยู่ทางซ้าย เขาสวมเสื้อเชิ้ตยีนส์ทับเสื้อยืดและกางเกงขายาวสีเทา ข้างๆ มีผู้ชายผิวเข้มใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีเขียวและกางเกงยีนส์อ่อน กำลังเขียนอะไรบางอย่างบนโต๊ะ ด้านขวาของภาพมีคนหนึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น โต๊ะทำงานมีโน้ตบุ๊ก แก้วน้ำ และอุปกรณ์สำนักงานอื่นๆ บรรยากาศดูสบายๆ และเป็นกันเอง แสงธรรมชาติส่องเข้ามาจากหน้าต่างด้านหลัง

แม้ในปัจจุบันจะมีการจ้างงานคนพิการตามมาตรามากขึ้นก็จริง แต่ทั้งนี้ก็เห็นหลายๆบริษัทเช่นกันเลือกที่จะไม่จ้างงานคนพิการที่ผมจะเรียกมันว่าเป็นการจ้างแรงงาน ทั้งนี้ผมจะขอพูดถึงอยู่ 2 มาตราด้วยกันคือ

มาตรา 33 วางหลักว่า “เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ และหน่วยงานของรัฐรับคนพิการเข้าทำงานตาม ลักษณะของงานในอัตราส่วนที่เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบการหรือหน่วย งานของรัฐ ทั้งนี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานออกกฎกระทรวงกำหนดจำนวนที่ นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ และหน่วยงานของรัฐจะต้องรับคนพิการเข้าทำงาน”.

Subscribe to RSS - กฎหมายการจ้างงานคนพิการ