คุณอยู่ที่

เน็ตWiFiความเร็วมาไม่เต็ม มีปัจจัยอะไร แก้ปัญหาอย่างไร? ปัญหาที่คนใช้อินเทอร์เน็ตต้องเจอ ฉบับปรับปรุงใหม่ 2025

1.0x

ปรับขนาดตัวอักษร

-A A +A
รูปภาพของ yod007
เขียนโดย yod007 เมื่อ พุธ, 07/30/2025 - 14:31

สวัสดีครับก็กลับมาพบกันอีกครั้งกับผมป๊อกซ่าไอที ในหัวข้อที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต้องเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นก็คือ "ทำไมเน็ต Wi-Fi ถึงความเร็วไม่เต็ม? มีปัจจัยอะไรบ้างและจะแก้ไขอย่างไร?" เป็นคำถามยอดฮิตที่สร้างความปวดหัวให้กับหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 1 Gbps กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

เราอาจจะเคยเจอเหตุการณ์ที่ว่า "ทำไมต่อสาย LAN แล้วความเร็วเต็มเปี่ยม แต่พอเป็น Wi-Fi แล้วความเร็วตกฮวบ!" โทรไปโวยวายผู้ให้บริการก็แล้ว ช่างมาดูก็แล้ว แนะนำให้ซื้อนั่นนี่เปลี่ยนนั่นนี่ สุดท้ายก็ยังงงๆ และได้แต่คิดว่า "อยากจ่ายน้อยแล้วจบไม่ได้เหรอ?" ต้องบอกเลยว่า "ไม่ได้ครับ" (ฮ่าฮ่า) ของดีและถูกไม่มีในโลก ถ้าเข้าใจหลักการทำงานของ Wi-Fi แล้ว จะช่วยให้เราเข้าใจปัญหาและหาวิธีแก้ไขได้ตรงจุดมากขึ้นครับ

ทำความเข้าใจ "ความเร็ว" ของอินเทอร์เน็ต

ก่อนอื่นต้องแยกให้ออกระหว่าง อินเทอร์เน็ตแบบมีสาย (LAN) กับ อินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi)

  • เน็ตแบบมีสาย (LAN): หากระบบของผู้ให้บริการไม่มีปัญหา ความเร็วจะมาเต็มหรือใกล้เคียงกับแพ็กเกจที่คุณสมัครไว้เสมอ เช่น ถ้าสมัคร 1 Gbps ก็อาจจะได้ความเร็วประมาณ 960-990 Mbps ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติครับ ไม่ต้องกังวลอะไรมาก
  • เน็ตแบบไร้สาย (Wi-Fi): การจะให้ Wi-Fi ทำความเร็วได้เท่ากับแบบมีสายนั้น "ทำได้" ครับ แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณา ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ความเร็ว Wi-Fi ไม่เต็มตามที่คาดหวัง

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเร็ว Wi-Fi และแนวทางแก้ไข

1. มาตรฐาน Wi-Fi และคลื่นสัญญาณ

มาตรฐาน Wi-Fi และคลื่นสัญญาณที่ใช้งานมีผลโดยตรงต่อความเร็วสูงสุดที่คุณจะได้รับ เรามาดูความแตกต่างของแต่ละมาตรฐานและคลื่นสัญญาณกันครับ

มาตรฐาน

  • Wi-Fi 4 (802.11n)

    • คลื่นสัญญาณ 2.4GHz
    • 1 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 150 Mbps
    • 2 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 300 Mbps
  • คลื่นสัญญาณ5GHz

    • 1 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 150 Mbps
    • 2 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 300 Mbps

** Wi-Fi 5 (802.11ac)**

  • คลื่นสัญญาณ 2.4GHz

    • 1 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 150 Mbps
    • 2 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 300 Mbps
  • 5GHz

    • 1 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 433 Mbps
    • 2 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 867 Mbps

Wi-Fi 6 (802.11ax)

  • คลื่นสัญญาณ 2.4GHz

    • 1 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 288 Mbps
    • 2 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 576 Mbps
  • 5GHz

    • 1 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 1200 Mbps
    • 2 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 2400 Mbps

Wi-Fi 6E (802.11ax)

  • คลื่นสัญญาณ 2.4GHz

    • 1 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 288 Mbps
    • 2 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 576 Mbps
  • 5GHz

    • 1 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 1200 Mbps
    • 2 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 2400 Mbps
  • 6GHz
    • 1 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 2402 Mbps
    • 2 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 4804 Mbps

Wi-Fi 7 (802.11be)

  • คลื่นสัญญาณ 2.4GHz

    • 1 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 344 Mbps
    • 2 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 688 Mbps
  • 5GHz

    • 1 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 1441 Mbps
    • 2 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 2882 Mbps
  • 6GHz

    • 1 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 2882 Mbps
    • 2 เสาสัญญาณ ความเร็วสูงสุด 5765 Mbps

คำอธิบายเพิ่มเติม:

  • คลื่น 2.4GHz: ให้ระยะครอบคลุมที่กว้างกว่าและทะลุสิ่งกีดขวางได้ดีกว่า เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่อยู่ไกลออกไปหรืออุปกรณ์ที่ไม่ต้องการความเร็วสูงมากนัก
  • คลื่น 5GHz: ให้ความเร็วที่สูงกว่าและแบนด์วิดท์กว้างกว่า เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการความเร็วสูง เช่น การสตรีมวิดีโอ 4K/8K หรือการเล่นเกม อย่างไรก็ตาม ระยะครอบคลุมจะสั้นกว่าและทะลุสิ่งกีดขวางได้ไม่ดีเท่า 2.4GHz
  • คลื่น 6GHz (สำหรับ Wi-Fi 6E และ Wi-Fi 7): นี่คือคลื่นความถี่ใหม่ที่สำคัญมาก มีช่องสัญญาณที่กว้างขวางมาก (รองรับช่องสัญญาณกว้างถึง 320 MHz ใน Wi-Fi 7) และมีสัญญาณรบกวนน้อย เนื่องจากเป็นคลื่นที่เพิ่งถูกเปิดให้ใช้งานและอุปกรณ์รุ่นเก่าไม่รองรับ ทำให้ได้ความเร็วสูงสุดที่แท้จริง เหมาะสำหรับอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่รองรับ

แนวทางแก้ไข:

  • ตรวจสอบมาตรฐาน Wi-Fi ของอุปกรณ์: ทั้งตัวปล่อยสัญญาณ (เราเตอร์) และอุปกรณ์ปลายทาง (มือถือ, โน้ตบุ๊ก, การ์ด Wi-Fi) ต้องรองรับมาตรฐาน Wi-Fi ที่สูงที่สุดเท่ากัน เพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุด เช่น หากต้องการใช้ Wi-Fi 7 เราเตอร์ก็ต้องรองรับ Wi-Fi 7 และอุปกรณ์ของคุณก็ต้องมีการ์ด Wi-Fi 7 ด้วย หากต้องการใช้ 6GHz ก็ต้องมั่นใจว่าทั้งเราเตอร์และอุปกรณ์ปลายทางรองรับ Wi-Fi 6E หรือ Wi-Fi 7
  • เลือกใช้คลื่น 5GHz หรือ 6GHz (ถ้ามี): หากอุปกรณ์ของคุณรองรับและอยู่ในระยะใกล้ ให้เชื่อมต่อกับคลื่น 5GHz หรือ 6GHz เพื่อความเร็วสูงสุด

2. จำนวนเสารับส่งข้อมูล (Spatial Streams)

อุปกรณ์ที่เราใช้ ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ก มือถือ หรือตัวรับ Wi-Fi มักจะมีจำนวนเสารับส่งสัญญาณ (Spatial Streams) ที่แตกต่างกัน ซึ่งโดยทั่วไปจะมี 1 หรือ 2 เสา (สำหรับอุปกรณ์ผู้บริโภคทั่วไป) ความเร็วสูงสุดของ Wi-Fi ที่ทำได้ก็จะขึ้นอยู่กับมาตรฐาน Wi-Fi และจำนวนเสาที่มี

แนวทางแก้ไข:

  • เลือกซื้ออุปกรณ์ที่รองรับ 2 เสาสัญญาณขึ้นไป: หากคุณต้องการความเร็ว Wi-Fi ที่สูงขึ้น ควรพิจารณาอุปกรณ์ปลายทางที่มีตัวรับ Wi-Fi แบบ 2 เสาสัญญาณขึ้นไป
  • สำหรับ Wi-Fi 7: หากต้องการใช้ประโยชน์จาก Multi-Link Operation (MLO) เพื่อรวมความเร็วจากหลายย่านความถี่ (เช่น 2.4GHz และ 5GHz หรือ 2.4GHz, 5GHz, 6GHz) เพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุดของ Wi-Fi 7 คุณจะต้องใช้อุปกรณ์ปลายทางที่รองรับ Wi-Fi 7 และ MLO ด้วย

3. สิ่งกีดขวางและระยะห่างจากตัวปล่อย

เป็นปัจจัยที่ชัดเจนที่สุด ยิ่งมีสิ่งกีดขวางมาก (ผนัง กำแพง กระจก) และระยะห่างจากตัวปล่อย (เราเตอร์) มากเท่าไหร่ ความเร็วของ Wi-Fi ก็จะยิ่งลดลงมากเท่านั้น

แนวทางแก้ไข:

  • วางเราเตอร์ในจุดที่เหมาะสม: ควรวางเราเตอร์ในพื้นที่เปิดโล่ง ไม่มีสิ่งกีดขวางมากนัก และอยู่กึ่งกลางของพื้นที่ที่คุณใช้งานบ่อยๆ
  • ลดสิ่งกีดขวาง: พยายามหลีกเลี่ยงการวางเราเตอร์ไว้หลังกำแพงหนาๆ ตู้ปลา หรือตู้เย็น
  • พิจารณา Mesh Wi-Fi หรือ Access Point: หากพื้นที่ใช้งานกว้างขวาง มีหลายชั้น หรือมีสิ่งกีดขวางเยอะ การใช้ระบบ Mesh Wi-Fi หรือติดตั้ง Access Point เพิ่มเติมจะช่วยขยายสัญญาณและรักษาความเร็วในพื้นที่ต่างๆ ได้ดีกว่า

4. สัญญาณรบกวนรอบข้าง

ยิ่งมีชื่อ Wi-Fi ในบริเวณใกล้เคียงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีสัญญาณรบกวนจากเครือข่ายอื่นมากเท่านั้น ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพและความเร็วของ Wi-Fi ของคุณ บางครั้งอาจเห็นชื่อ Wi-Fi เป็นสิบๆ ชื่อในพื้นที่เดียวกัน ทำให้การทำความเร็วสูงสุดเป็นไปได้ยาก

แนวทางแก้ไข:

  • เลือกช่องสัญญาณ (Channel) ที่เหมาะสม: เราเตอร์ส่วนใหญ่มีฟังก์ชันการเลือกช่องสัญญาณอัตโนมัติ แต่คุณสามารถลองเปลี่ยนช่องสัญญาณด้วยตนเองในหน้าตั้งค่าเราเตอร์ เพื่อหาช่องสัญญาณที่มีการรบกวนน้อยที่สุด
  • ใช้คลื่น 5GHz หรือ 6GHz (ถ้ามี): คลื่น 5GHz มีช่องสัญญาณให้เลือกใช้มากกว่าและมีการรบกวนน้อยกว่าคลื่น 2.4GHz ส่วนคลื่น 6GHz ยิ่งมีช่องสัญญาณที่กว้างและปลอดโปร่งกว่ามาก ทำให้เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มี Wi-Fi หนาแน่น

สรุปผลการทดสอบและความเป็นไปได้ในการทำความเร็ว Wi-Fi 1 Gbps

จากการทดสอบตามเงื่อนไขที่คุณระบุ (นั่งใกล้ตัวปล่อย 2-3 เมตร, ห้องเดียวกับตัวปล่อย, ไม่มีสิ่งกีดขวาง, ตัวรับ 2 เสา, โน้ตบุ๊ก Gamer, มาตรฐาน Wi-Fi ล่าสุด, เชื่อมต่อกับตัวส่งเพียงตัวเดียว):

  • คลื่น 2.4GHz (Wi-Fi 6 / 802.11ax):

o ความเร็ว Wi-Fi สูงสุดตามทฤษฎี: 576 Mbps (2 เสาสัญญาณ)
o ความเร็วเน็ตที่ได้จริง: 380-390 Mbps (ประมาณ 2 ใน 3 ของความเร็วสูงสุด)
o แม้จะเป็น Wi-Fi 6 ก็ยังไม่ถึง 1 Gbps และหากใช้ 1 เสาสัญญาณ ความเร็วก็จะลดลงอีกครึ่งหนึ่ง

  • คลื่น 5GHz (Wi-Fi 6 / 802.11ax):

o ความเร็ว Wi-Fi สูงสุดตามทฤษฎี: 2400 Mbps (2 เสาสัญญาณ)
o ความเร็วเน็ตที่ได้จริง: 960-990 Mbps
o ผลลัพธ์นี้ใกล้เคียงกับความเร็วแบบสายมาก ถือว่า "เยี่ยม"
o หากความเร็ว Wi-Fi สูงสุดตามทฤษฎีลดลงเหลือ 1200 Mbps (2 เสาสัญญาณ) ความเร็วเน็ตที่ได้จริงจะประมาณ 800-810 Mbps ซึ่งก็ยังถือว่าสูงมาก

ข้อสรุปที่สำคัญ

  • การจะให้ได้ความเร็วเน็ตผ่าน Wi-Fi ใกล้เคียง 1 Gbps นั้น ปัจจัยทุกอย่างต้อง "พร้อม" และ "สุด" จริงๆ
  • สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ บริเวณที่คุณใช้งานจะต้องมีสัญญาณ Wi-Fi อื่นรบกวนน้อยมาก หรือไม่มีเลย จึงจะสามารถทำความเร็วสูงสุดตามทฤษฎีได้
  • ความเร็วเน็ตที่ได้จริง มักจะประมาณ 2 ใน 3 ของความเร็ว Wi-Fi สูงสุดตามทฤษฎีที่ทำได้ ณ ขณะนั้น
  • สิ่งกีดขวางและระยะห่าง ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความเร็วลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ความเร็วเน็ตที่เหมาะสมกับการใช้งานทั่วไป

  • คลื่น 2.4GHz: ความเร็ว 50-100 Mbps (สำหรับ 2 เสา) หรือ 25-50 Mbps (สำหรับ 1 เสา) ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เช่น ดู YouTube, ท่องเว็บ
  • คลื่น 5GHz: ความเร็ว 200-400 Mbps (สำหรับ 2 เสา) หรือ 100-200 Mbps (สำหรับ 1 เสา) ก็เพียงพอสำหรับการสตรีมวิดีโอ 4K และการใช้งานส่วนใหญ่ อย่าลืมว่าเราไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ตแค่อุปกรณ์เดียว แต่ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมายที่เชื่อมต่อและแชร์แบนด์วิดท์ร่วมกัน

ส่งท้าย

หวังว่าบทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจเรื่องความเร็ว Wi-Fi ที่ไม่เต็มและปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้นะครับ หากคุณทดสอบแล้วความเร็วไม่สุด ก็อย่าเพิ่งโวยวายไปนะค๊าบบบ เดี๋ยวจะว่าป๊อกซ่าไอทีไม่บอก (ฮาฮา) ถ้ามีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่า Wi-Fi หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง Wi-Fi 7 ก็ถามมาได้เลยนะครับ!

แหล่งข้อมูล

  • https://www.techtalkthai.com/new-reference-name-of-802-11-ax-is-wi-fi-6/
  • https://tips.thaiware.com/513.html
  • https://droidsans.com/introducing-wifi-6-6e-6ghz/
  • https://www.tp-link.com/th/wifi6/ จากบทความเก่า ช่วยปรับข้อมูลให้ wifi เป็นปัจจุบันหให้นอ่ย คือ
  • Wi-Fi Alliance: องค์กรที่กำหนดมาตรฐาน Wi-Fi สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับมาตรฐาน 802.11be (Wi-Fi 7) และ 802.11ax (Wi-Fi 6/6E) รวมถึงคุณสมบัติหลักต่างๆ
  • Tech News Websites & Publications: เว็บไซต์ข่าวสารและบทความทางเทคโนโลยีที่นำเสนอข้อมูลเชิงลลึกเกี่ยวกับมาตรฐาน Wi-Fi ล่าสุดและประสิทธิภาพของเทคโนโลยี

ผู้ช่วยเรียบเรียงและปรับปรุงข้อมูล:

  • Gemini (โมเดลภาษาขนาดใหญ่โดย Google)


ผู้อ่านสามารถสนับสนุนเว็บไซต์ โดยการอุดหนุนนิยายบนเว็บไซต์ เขียนกันดอทคอม เว็บไซต์อ่านนิยายที่คนตาบอดเป็นเจ้าของ และอยากให้สังคมการอ่านเป็นของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าตาดีหรือตาบอด

แสดงความคิดเห็น